วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

นักอ่าน ม.4 ครั้งที่ 1

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. 54- 5 มิ.ย. 54

62 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:48

    Asus เปิดตัว PadFone แล้ว!!!

    ก่อนหน้างาน Computex 2011 ที่จะจัดให้มีขึ้นในไต้หวันตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. - 4 มิ.ย. ได้มีการเปิดเผยภาพตลอดจนโปสเตอร์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Asus ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตไม่ใช่น้อย ล่าสุดภาพผลิตภัณฑ์ลึกลับดังกล่าวได้มีการหลุดออกมาว่อนเน็ตเพิ่มเติม โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวน่าจะเรียกว่า PadFone โดยเป็นการผสมผสานระหว่าง"สมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต"นั่นเอง

    ที่มา:www.arip.co.th

    ถามเองตอบเอง
    1.Asus เป็นตัวสินค้าอะไร
    ตอบ PadFone

    2.งานดังกล่าวจัดขึ้นที่ประเทศใด
    ตอบ ไต้หวัน

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวณัฎฐมาศ บุญดาว ม.4/1 เลขที่ 37

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:49

    บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


    ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
    พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
    ที่มา http://support.mof.go.th/net/techno.htm
    คำถาม
    1.มนุษย์จัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณกี่ปี
    คำตอบ 500-800 ปีที่แล้ว
    2.การพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร้วขึ้นเมื่อมรการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านใด
    คำตอบ ด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบต่าง ๆ
    นาย ธนวัฒน์ ศรีผอม ชั้นม. 4/1 เลขที่ 5

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:50

    การใช้งานคีย์บอร์ด
    Keyboard หรือแป้นพิมพ์ในภาษาไทย เป็นอุปกรณ์มาตราฐานในการสั่งงานและป้อนข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ คล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีดทั่วไป เราสามารถแบ่งแยกปุ่มหลัก ๆ ในการทำงานได้ดังนี้ (อนึ่ง สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องพิมพ์ดีดได้ ก็จะสามารถเรียนรู้การใช้คีย์บอร์ดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น)
    ปุ่ม Escape
    ปุ่มสำหรับยกเลิกคำสั่งที่กำลังทำอยู่ หรือใช้สำหรับออกจากโปรแกรมนั้น ๆ
    ปุ่ม Functions
    ปุ่มที่ให้ความสะดวกในการเรียกใช้คำสั่งอื่น ๆ เช่น กดคีย์ F1 หมายถึงคำสั่ง Help เพื่ออ่านข้อมูลการใช้โปรแกรมนั้น ๆ
    ปุ่ม Print Screen
    ปุ่มสำหรับพิมพ์หน้าจอที่เรากำลังใช้งานอยู่ สำหรับในระบบ Windows การ Print Screen จะไม่พิมพ์ข้อมูลทันที แต่จะเก็บไว้ใน ClipBoard เราสามารถเรียกข้อมูลนั้นได้ด้วยคำสั่ง Paste หรือใช้คำสั่ง Ctrl+V ในโปรแกรมใด ๆ ก็ได้
    ไฟแสดงสถานะปุ่ม
    ไฟแสดงสถานะการใช้งานของปุ่ม Num Lock, Caps Lock Scroll Lock
    ปุ่ม Caps Lock และปุ่ม Shift
    ปุ่มที่เหมือนกับปุ่ม ยกแคร่ในเครื่องพิมพ์ดีดทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับควบคุมพิมพ์ตัวอักษรเล็ก-ใหญ่หรือพิมพ์ตัวอักษรที่ด้านบน (คีย์บอร์ดหนึ่งปุ่มจะมีตัวอักษรทั้งด้านบนและล่าง) ปุ่ม Caps Lock กดครั้งเดียว (สังเกตุได้จากไฟ Caps Lock ที่ด้านบนขวามือ) ถ้าต้องการยกเลิกให้กดอีกครั้ง ส่วน ปุ่ม Shift เป็นการใช้คำสั่ง Caps Lock ชั่วคราว)
    ปุ่ม Ctrl และปุ่ม Alt
    Ctrl มาจากคำว่า Control ส่วน Alt มาจากคำว่า Alternate เป็นปุ่มพิเศษที่ใช้ร่วมกับปุ่มอื่น ๆ เพื่อใช้ในการเรียกคำสังลัด เช่น Alt+F4 ใช้ในการปิดโปรแกรม
    ปุ่ม Spacebar
    ปุ่มที่ใช้สำหรับเพิ่มช่องว่างระหว่างตัวอักษร
    ปุ่ม Backspace
    ปุ่มนี้ใช้สำหรับลบตัวอักษร โดยจะลบจากขวามาด้านซ้ายมือ
    ปุ่ม Enter
    ปกติจะใช้ปุ่มนี้เพื่อยืนยันการทำงานในคำสังนั้น ๆ แต่อาจหมายถึงขึ้นบรรทัดในกรณีใช้งานในเรื่องการพิมพ์จดหมาย
    ปุ่ม ตัวเลข
    กรณีไฟที่ปุ่ม Num Lock ติด เราสามารถพิมพ์ตัวเลข จากตำแหน่งนี้ได้ แต่ถ้าดับ หมายถึง ให้ใช้ลูกศรแทน
    ปุ่ม ลูกศร
    ปุ่มใช้สำหรับเลื่อน Cursor ไปซ้าย ขวา ล่าง บน
    Tips :: ปุ่ม Windows :: ปุ่มพิเศษใช้แทนการกดปุ่ม Start เริ่มใช้มาตั้งแต่ Windows เวอร์ชั่น 95

    ที่มา http://www.it-guides.com/

    ถามเองตอบเอง
    1. ปุ่ม Spacebar ใช้ทำหน้าที่อะไร
    - ปุ่มที่ใช้สำหรับเพิ่มช่องว่างระหว่างตัวอักษร
    2.ปุ่ม Escape มีหน้าที่ทำอะไร
    - ปุ่มสำหรับยกเลิกคำสั่งที่กำลังทำอยู่ หรือใช้สำหรับออกจากโปรแกรมนั้น ๆ
    ผู้อ่าน เด็กชาย ธีระยุทธ เเก้วดี ชั้นม.4/1 เลขที่ 36

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:55

    ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft® Dynamics CRM 2011 ผนวกบริการคลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรธุรกิจไทยโดยโรงพยาบาลศิครินทร์ลูกค้ารายแรกในไทยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ในการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

    ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดสำหรับเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างครบวงจร Microsoft® Dynamics CRM 2011 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ on-premise และแบบบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากไมโครซอฟท์จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้กับองค์กรธุรกิจด้วยประสบการณ์ในการใช้งานที่คุ้นเคย ทั้งยังมีความสามารถในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นอย่างราบรื่น ให้กระบวนการทางธุรกิจที่มีประสิทธิผลรวมทั้งความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ จึงสามารถสร้างประสบการณ์การให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้าและช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ องค์กรธุรกิจในประเทศไทยจะมั่นใจได้ถึงเครื่องมือการจัดการธุรกิจ CRM ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    ที่มา:
    http://www.newswit.com/

    ถามเอง-ตอบเอง
    1.ไมโครซอฟท์ที่เปิดตัวใหม่มีชื่อว่าอะไร
    ตอบ Microsoft® Dynamics CRM 2011
    2.ลูกค้ารายเเรกที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากไมโครซอฟท์คือ
    ตอบ โรงพยาบาลศิครินทร์
    นาย ณัฐวัฒน์ สุนทรนนท์ เลขที่43 ม.4/1

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:55

    ส่วนประกอบของ Main Board
    Main Board หรือ?Master Board เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ เป็นแผงวงจรหลักของคอมพิวเตอร์ จะติดตั้งอยู่ภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน ส่วนประกอบหลักของเมนบอร์ด ประกอบด้วย
    พอร์ต (port)
    เป็นจุดที่ให้เมนบอร์ดติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกได้ เช่น เครื่องพิมพ์ เม้าส์ เป็นต้น
    สล๊อตหน่วยความจำ (memory slot)
    เป็นซ๊อกเกตบนเมนบอร์ดสำหรับเสียบแผงหน่วยความจำหลักของเครื่อง
    ชิปเซต (chipset)
    เป็นชุดของชิปที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลบนเมนบอร์ด
    หน่วยความจำ แคช (cache memory)
    ทำหน้าที่พักข้อมูลที่เพิ่งถูกเรียกใช้ เมื่อถูกเรียกใช้งานซ้ำ ซีพียูจะดึงข้อมูลจากหน่วยความจำนี้ขึ้นมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างของแคชเมมโมรี่ คือ L1, L2 ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น
    โปรเซสเซอร์ ซ็อกเกต (processor socket)
    เป็นที่ติดตั้งซีพียูเข้ากับเมนบอร์ด
    จัมเปอร์ (jumper)
    ใช้สำหรับการปรับแต่งการใช้เมนบอร์ด เช่นกำหนดเรื่องความเร็วของซีพียู เป็นต้น ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับ mainboard ไม่จำเป็นต้องมีการเซ็ทจัมเปอร์แล้ว แต่จะเป็นการเซ็ทแบบอัตโนมัติให้
    สล็อตการ์ดขยาย (expansion slot)
    เป็นช่องสำหรับเสียบการ์ดที่ทำหน้าที่ขยายความสามารถของคอมพิวเตอร์
    ชิปไบออส (bios ย่อมาจาก basic imput/output system)
    ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ติดบนเมนบอร์ด
    ชิปซีมอส (cmos ย่อมาจาก complementary metal oxide semiconductor)
    ทำหน้าที่เก็บเวลาของระบบและค่าต่าง ๆ ที่ bios ได้กำหนดไว้ เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีไฟมาเลี้ยงจากแบตเตอร์รี่ทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับซี
    มอส

    ที่มา http://www.it-guides.com/

    ถามเองตอบเอง
    1.ชิปเซต (chipset)ทำหน้าที่อะไร
    - เป็นชุดของชิปที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลบนเมนบอร์ด
    2.พอร์ต (port)เป็นจุดที่ให้เมนบอร์ดติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกได้เเก่อะไรบ้าง
    - เครื่องพิมพ์ เม้าส์ เป็นต้น
    ผู้อ่าน นางสาว เยาวลักษณ์ เพ็ชรคง ม.4/1 เลขที่35

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:56

    องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์



    จากความหมายของ "คอมพิวเตอร์" ก็คงจะมองออกว่า คอมพิวเตอร์จะทำงานได้ ต้องประกอบด้วยส่วนการทำงานอะไรบ้าง นั่นคือ คอมพิวเตอร์ต้องประกอบด้วยส่วนรับข้อมูลและคำสั่ง ส่วนประมวลผล ส่วนที่ใช้แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผล และส่วนในการเก็บบันทึกข้อมูล ซึ่งเรียกรวมกันว่า "องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์" อันได้แก่


















    · ส่วนที่ทำหน้าที่รับข้อมูล และคำสั่ง เรียกว่า หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)

    · ส่วนที่นำเอาข้อมูลและคำสั่งไปประมวลผล เรียกว่า หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit ; CPU)

    · ส่วนที่ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์เรียกว่า หน่วยแสดงผล (Output Unit)

    · ส่วนที่ทำหน้าที่บันทึกคำสั่งและข้อมูล อย่างถาวร เรียกว่า หน่วยความจำรอง (Secondary Storage Unit)

    นอกจากส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ทั้ง 4 ส่วนยังมีส่วนประกอบอื่นๆ อีกดังนี้

    · ข้อมูล (Data) คือข้อมูลต่างๆ ที่เรานำมาให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลคำนวณ หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลบุคลากรเกี่ยวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษาหรือ ประวัติการทำงาน ซึ่งอาจนำมาจำแนกเป็นรายงานต่างๆ เกี่ยวกับบคุลากรในหน่วยงานได้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขมาตรๆ ไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็ใช้สำหรับคำนวณเป็นปริมาณไฟฟ้า ที่ใช้ในแต่ละเดือน แล้วคิดเป็นเงิน ที่จะต้องชำระให้กับการไฟ้ฟ้าฯ ในปัจจุบันเราถือว่าข้อมูล มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ ถ้าฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เสียหาย ไปยังหาซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าหากข้อมูลเกิดการสูญหายแล้ว หน่วยงานอาจจะประสบปัญหาในการดำเนินงานได้ทันที

    · บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสำคัญมาก เพราะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ นั้นจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดำเนินการต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ มากนัก ดังนั้นเราจึงถือว่าบุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย

    · ระเบียบ คู่มือ และ มาตรฐาน (Procedure) การนำคอมพิวเตอรต์เข้ามาใช้ในหน่วยงานนั้น จะต้องไปสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานจำนวนมาก บุคคลเหล่านี้บางคนก็เรียนรู้ได้เร็ว บางคนก็ช้า และนอกจากนั้นยังมีแนวคิด และทัศนคติที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้คนเหล่านี้ทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา จึงจำเป็นจะต้องมีระเบียบปฏิบัติ ให้เป็นแบบเดียวกัน มีการจัดทำคู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ ให้ทุกคนเรียนรู้และใช้อ้างอิงได้ นอกจากนั้นเมื่อการใช้มาตรฐาน ด้านคอมพิวเตอร์และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้การประสานงาน ระหว่างหน่วยงานย่อยๆ ราบรื่นขึ้น การจัดซื้อจัดหา ตลอดจนการบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ก็จะง่ายขึ้น เพราะทุกหน่วยงานใช้มาตรฐานเดียวกัน
    ที่มา http://www.comcn.in.th/elearnning/wacharat/hardware1.htm
    คำถาม
    1. ส่วนที่ทำหน้าที่บันทึกคำสั่งและข้อมูล อย่างถาวร เรียกว่าอะไร
    ตอบ หน่วยความจำรอง (Secondary Storage Unit)
    2.กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการ มีอะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
    ตอบ ข้อมูลบุคลากรเกี่ยวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัว
    นาย รัฐวิทย์ แสงสุดตา ชั้นม.4/1 เลขที่ 44

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:58

    คอมพิวเตอร์ คือ
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

    การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 5 หน่วย คือ

    หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    กลไกการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากองค์ประกอบต่างๆ เริ่มด้วยเมื่อมีการกดปุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมหรือชุึดคำสั่งที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมที่จะทำงาน เมื่อตรวจสอบเสร็จคอมพิวเตอร์จะแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะทำงาน ก็จะมีการป้อนคำสั่งหรือโปรแกรมหรือข้อมูลโดยผ่านหน่วยรับข้อมูล แล้วนำไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก ต่อจากนั้น หน่วยประมวลผลกลางก็จะทำการตามคำสั่งของโปรแกรมซึ่งเรียกว่า การประมวลผล แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้เก็บไว้ที่ หน่วยความจำ และจะแสดงผลลัพธ์ผ่านหน่วยแสดงผลเมื่อมีคำสั่งให้แสดงผลลัพธ์

    1. การทำงานของคอมพิวเตอร์มีกี่หน่วยอะไรบ้าง
    -5 หน่วย
    1.หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    2.หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    3.หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    4.หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    5.หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    2.คอมพิวเตอร์คือ
    -อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
    น.ส. อรนิภา ชนะนาค เลขที่20 ชั้น ม.4/1

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:58

    การประมวลผลสารสนเทศ ยังหมายถึงการประมวลผลข้อมูลสารสนเทศที่ถูกจัดเก็บไว้ในรูปของไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ได้ถูกอ่านขึ้นมาจากที่จัดเก็บ (storage) เพื่อเอาไปประมวลผ่านหน่วยประมวลผล (processor) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาและแสดงผลออกมาในหน่วยแสดงผลทางหน้าจอหรือทางพรินเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง

    นอกจากนั้น การประมวลผลสารสนเทศ ยังมีความหมายในเชิงจิตวิทยาว่าด้วยเรื่องกระบวนการรับรู้ ซึ่งเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อให้เข้าใจวิธีการคิดของมนุษย์
    http://wikipedia.org


    1.การประมวลผลสารสนเทศหมายถึงอะไร
    ตอบการประมวลผลสารสนเทศที่ถูกจัดเก็บไว้
    2.การประมวลผลสารสนเทศมีความหมายทางจิตวิทยาอย่างไร
    ตอบด้วยเรื่องกระบวนการรับรู้ ซึ่งเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อให้เข้าใจวิธีการคิดของมนุษย์
    ชื่อผู้อ่าน.ส.รัตนา ยังชุม เลขที่39 ม.4/1

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:59

    iPhone 4S โผล่ปลายก.ค."ไม่ใช้ซิม"?

    ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 4S ยังคงมีออกให้ได้ยินอย่างต่อเนื่องล่าสุด เว็บไซต์ Mactakara ได้ออกมาเปิดเผยบันทึกข้อความเกี่ยวกับ iPhone 4S และ iPhone 5 โดยอ้างข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งข่าววงในที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ โดยแหล่งข่าวอ้างว่า iPhone 4S จะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หรืออย่างช้าต้นเดือนสิงหาคม ศกนี้ ส่วน iPhone 5 จะเปิดตัวในปี 2012 แหล่งข่าวยังยืนยันด้วยว่า iPhone 4S จะมาพร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งให้ข้อมูลล่าสุดที่อาจจะทำให้หลายคนประหลาดใจนั่นก็คือ มันได้รับการออกแบบให้ไม่ต้องใช้การ์ดซิม (SIM-less) ส่วนดีไซน์ของตัวเครื่องโดยรวม ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 4 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเสาอากาศรับสัญญาณ 3 - 4 เสาไว้ภายใน เพื่อรองรับการโครงข่ายผู้ให้บริการทั้ง AT&T และ Verizon ได้

    ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=413711

    ถามเองตอบเอง
    1.iPhone ที่ไม่ใช้ซิมมีชื่อว่าอะไร
    ตอบ iPhone 4S

    2.iPhone 5 เปิดตัวในปีใด
    ตอบ 2012

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวยศวดี บุญยง ใ.4/1 เลขที่ 38

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ30 พฤษภาคม 2554 เวลา 23:59

    Acer Aspire One 522 เน็ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer

    Acer Aspire One 522 เน๊ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมาก หลังจากข่าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาข่าวของ Acer Aspire One 522 นั้นก็เงียบหายไปเป็นเวลานานและข่าวที่เรารอคอยมานานนั้นก็ได้ออกมาให้ประชาชนที่รอคอยนั้นรับทราบกันแล้ว เน็ตบุ๊กของ Acer ตัวนี้นั้นทำได้อย่างลงตัวแม้ว่าเครื่องจะเล้กเพียงแค่ 10 นิ้ว แต่คุณภาพนั้นไม่ได้เล็กอย่างที่ตาเห็นเลยครับ เพราะได้มีการใช้ AMD Fusionในเน็ตบุ๊กเครื่องนี้ด้วย



    Acer Aspire One 522 นั้นมีองค์ประกอบอะไรบ้างมาดูกันดีกว่าครับ มีการใช้เอเอ็มดีฟิวชั่น APU’Ontario’เอเอ็มดี C – 50 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลหลัก 1GHz คู่กับ TDP ทั้งหมดของ 9W กราฟิกนั้นใช้ชิป Radeon 6250 DirectX 11 และสามารถใช้ UVD3 ได้อีกด้วย จอแสดงผลขนาด 10 นิ้วความ ละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 มาตรฐานการแสดงผล 1024 x 600 นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ HDMI เพื่อใช้ประโยชน์ของการเชื่อมต่อต่างๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีระบบการเชื่อม Wi – Fi ขนาดของ Ram อยู่ที่ 2 GB และมีขนาดของ Harddisk ถึง 500 GB ด้วยกัน เห็นไหมครับเพื่อนๆ ว่า Acer นั้นทำออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด ทั้งด้านความแรงของเครื่อง ความสวยงามที่สรรสร้างออกมาอย่างตั้งใจ เพื่อนๆคนไหนสนใจต้องการเป็นเจ้าของนั้นก็ไม่ลำบากอะไรเลย ด้วยราคาที่ออกวางจำหน่ายนั้น เป็นราคาที่น่าดีใจยิ่งนักเพียงแค่ 12,829 บาทเท่านั้นเอง ของดีดีแบบนี้ไม่ควรพลาดนะครับ

    ที่มา: http://www.compgamer.com/home/?p=27759

    ถามตอบ
    1. Acer Aspire One 522 จำหน่ายราคาอยู่ที่เท่าไร
    ตอบ 12,829 บาท
    2. ขนาด Ram Acer Aspire One 522 อยู่ที่เท่าไร
    ตอบ 2 GB

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:02

    Acer Aspire One 522 เน็ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer

    Acer Aspire One 522 เน๊ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมาก หลังจากข่าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาข่าวของ Acer Aspire One 522 นั้นก็เงียบหายไปเป็นเวลานานและข่าวที่เรารอคอยมานานนั้นก็ได้ออกมาให้ประชาชนที่รอคอยนั้นรับทราบกันแล้ว เน็ตบุ๊กของ Acer ตัวนี้นั้นทำได้อย่างลงตัวแม้ว่าเครื่องจะเล้กเพียงแค่ 10 นิ้ว แต่คุณภาพนั้นไม่ได้เล็กอย่างที่ตาเห็นเลยครับ เพราะได้มีการใช้ AMD Fusionในเน็ตบุ๊กเครื่องนี้ด้วย



    Acer Aspire One 522 นั้นมีองค์ประกอบอะไรบ้างมาดูกันดีกว่าครับ มีการใช้เอเอ็มดีฟิวชั่น APU’Ontario’เอเอ็มดี C – 50 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลหลัก 1GHz คู่กับ TDP ทั้งหมดของ 9W กราฟิกนั้นใช้ชิป Radeon 6250 DirectX 11 และสามารถใช้ UVD3 ได้อีกด้วย จอแสดงผลขนาด 10 นิ้วความ ละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 มาตรฐานการแสดงผล 1024 x 600 นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ HDMI เพื่อใช้ประโยชน์ของการเชื่อมต่อต่างๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีระบบการเชื่อม Wi – Fi ขนาดของ Ram อยู่ที่ 2 GB และมีขนาดของ Harddisk ถึง 500 GB ด้วยกัน เห็นไหมครับเพื่อนๆ ว่า Acer นั้นทำออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด ทั้งด้านความแรงของเครื่อง ความสวยงามที่สรรสร้างออกมาอย่างตั้งใจ เพื่อนๆคนไหนสนใจต้องการเป็นเจ้าของนั้นก็ไม่ลำบากอะไรเลย ด้วยราคาที่ออกวางจำหน่ายนั้น เป็นราคาที่น่าดีใจยิ่งนักเพียงแค่ 12,829 บาทเท่านั้นเอง ของดีดีแบบนี้ไม่ควรพลาดนะครับ

    ที่มา: http://www.compgamer.com/home/?p=27759

    ถามตอบ
    1. Acer Aspire One 522 จำหน่ายราคาอยู่ที่เท่าไร
    ตอบ 12,829 บาท
    2. ขนาด Ram Acer Aspire One 522 อยู่ที่เท่าไร
    ตอบ 2 GB

    เด็กชาย เกียรติศักดิ์ แก้วศรี เลขที่ 11 ชั้น ม4/1

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:03

    iPad Smart Cover ออกแบบมาให้อยู่คู่กัน !!!

    iPad 2 และ iPad Smart Cover ถูกออกแบบมาสำหรับกันและกันโดยเฉพาะ 4 โดย iPad Smart Cover ถูกออกแบบมาให้ไว้เคียงข้าง ไว้บน และไว้ด้านล่างของ iPad ได้อย่างพอดี ด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็กฉลาดๆที่อยู่ภายใน ทำให้ iPad Smart Cover ติดเข้าที่ได้อย่างพอดี และป้องกันจอ iPad ได้โดยที่ไม่ทำให้ดีไซน์บางเบาของ iPad หนาจนเกินไป ทันทีที่คุณเปิด Smart Cover ขึ้นมา iPad ก็ติดขึ้นพร้อมใช้งาน และ sleep อัตโนมัติเมื่อคุณปิด และพร้อมใช้งานเป็นทั้งขาตั้งสำหรับดูวิดีโอ, เล่นเกม, หรือเล่นเว็บอย่างลงตัว มีให้เลือกจาก 10 สีสดใส โดยเป็นสีที่ใช้ aniline-dye ในการย้อมแบบเครื่องหนังอิตาลีถึง 5 สี 5 แค่เลือกสีที่ใช่ iPad ของคุณก็ smart ขึ้นในทุกแง่มุม

    ที่มา : http://www.apple.com/th/ipad/

    ถามเองตอบเอง
    1.ipad ใช้เทคโนโลยีอะไร
    ตอบ เทคโนโลยีแม่เหล็ก

    2.ipadมีสีที่ใช้ aniline-dyeในการย้อมแบบเครื่องหนังอิตาลีถึงกี่สี
    ตอบ 5 สี

    ชื่อผู้อ่น นางสาวดลนภา อ่อนละเอียด ม.4/1 เลขที่ 23

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:03

    คอมพิวเตอร์คืออะไร
    คอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เอื้อประโยชน์ต่อการแสวงหาสารสนเทศ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    ที่สามารถรับโปรแกรมและข้อมูล ประมวลผล สื่อสารเคลื่อนย้ายข้อมูล และแสดงผลลัพธ์ได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่อง
    ของ ความเร็ว ความเชื่อถือ ความถูกต้องแม่นยำ การเก็บข้อมูลจำนวนมาก ตลอดจนสามารถย้ายข้อมูลไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น
    คอมพิวเตอร์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อสังคมของมนุษย์ แทบทุกวงการล้วนนำคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำงานจน
    กล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน
    ปัจจุบันมีคอมพิวเตอร์หลากหลายลักษณะ หลากหลายรูปแบบ ทั้งคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้ว คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์
    เมนเฟรม หรือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม คอมพิวเตอร์คือ
    เครื่องคำนวณ ในรูปของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถรับข้อมูล และคำสั่ง ผ่าน
    อุปกรณ์รับข้อมูล แล้วนำข้อมูลและคำสั่งนั้น ไปประมวลผลด้วยหน่วยประมวลผลเพื่อให้ได้
    ผลลัพธ์ที่ต้องการ และแสดงผลผ่านอุปกรณ์แสดงผล ตลอดจนสามารถบันทึกรายการต่างๆ ไว้เพื่อใช้งานได้ด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูลสำรอง คอมพิวเตอร์จึงมีรูปร่างเปลี่ยนไปตามลักษณะ
    การใช้งาน เช่น เครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ หรือ ATM เป็นต้น

    ที่มา:http://www.atom.rmutphysics.com

    1.คอมพิวเตอร์คืออะไร
    - คอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เอื้อประโยชน์ต่อการแสวงหาสารสนเทศ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    2.ปัจจุบันมีคอมพิวเตอร์หลากหลายลักษณะ อะไรบ้าง
    -คอมพิวเตอร์ขนาดพกพา คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้ว เป็นต้น

    นางสาวญาลิณี นวลย่อง เลขที่17 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:04

    ความหมายของการสื่อสารข้อมูล
    การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การโอนถ่าย (Transmission) ข้อมูลหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างต้นทางกับปลายทาง โดยใช้อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีตัวกลาง เช่น ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์สำหรับควบคุมการส่งและการไหลของข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง นอกจากนี้อาจจะมีผู้รับผิดชอบในการกำหนดกฏเกณฑ์ในการส่งหรือรับข้อมูลตามรูปแบบที่ต้องการ

    องค์ประกอบพื้นฐานของระบบสื่อสารข้อมูล
    การสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    1. ผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งข้อมูล(Sender)
    ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ต้นทางจะต้องจัดเตรียมนำเข้าสู่อุปกรณ์สำหรับส่งข้อมูล ซึ่งได้แก่เครื่องพิมพ์ หรืออุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้อยู่ใน รูปแบบที่สามารถส่งข้อมูลนั้นได้ก่อน

    2. ผู้รับหรืออุปกรณ์รับข้อมูล (Receiver)
    ข้อมูลที่ถูกส่งจากอุปกรณ์ส่งข้อมูลต้นทาง เมื่อไปถึงปลายทางก็จะมีอุปกรณ์สำหรับ รับข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม ฯลฯ
    3. โปรโตคอล (Protocal)
    โปรโตคอล คือ กฏระเบียบ หรือวิธีการใช้เป็นข้อกำหนดสำหรับการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจกันได้ ซึ่งมีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น TCP/IP, X.25, SDLC เป็นต้น

    4. ซอฟต์แวร์ (Software)
    การส่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีโปรแกรมสำหรับกำเนินการ และควบคุมการส่งข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ ได้แก่ Novell’s netware] UNIX Windows NT ฯลฯ

    5. ข่าวสาร (Message)
    เป็นรายละเอียดซึ่งอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะส่งผ่านระบบการสื่อสาร ซึ่งมีหลายรูปแบบดังนี้
    5.1 ข้อมูล (Data) เป็นรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งถูกสร้างและจัดเก็บด้วยคอมพิวเตอร์ มีรูปแบบแน่นอน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า เป็นต้น ข้อมูลสามารถนับจำนวนได้และส่งผ่านระบบสื่อสารได้เร็ว
    5.2 ข้อความ (Text) อยู่ในรูปของเอกสารหรือตัวอักขระ ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ชัดเจนนับจำนวนได้ค่อนข้างยาก และมีความสามารถในการส่งปานกลาง
    5.3 รูปภาพ (Image) เป็นข่าวสารที่อยู่ในรูปของภาพกราฟิกแบบต่าง ๆ ได้แก่ รูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพวีดีโอ ซึ่งข้อมูลชนิดนี้จะต้องอาศัยสื่อสำหรับเก็บ และใช้หน่วยความจำเป็นจำนวนมาก
    5.4 เสียง (Voice) อยู่ในรูปของเสียงพูด เสียงดนตรี หรือเสียงอื่น ๆ ข้อมูลชนิดนี้จะกระจัดกระจาย ไม่สามารถวัดขนาดที่แน่นอนได้ การส่งจะทำได้ด้วยความเร็ว ค่อนข้างต่ำ

    6. ตัวกลาง(Medium)
    เป็นตัวกลางหรือสื่อกลางที่ทำหน้าที่นำข่าวสารในรูปแบบต่าง ๆ จากผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งต้นทางไปยังผู้รับ หรืออุปกรณ์รับปลายทาง ซึ่งมีหลายรูปแบบได้แก่ สายไป ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออฟติก ตัวกลางอาจจะอยู่ในรูปของคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นดาวเทียม หรือคลื่นวิทยุ เป็นต้น

    ที่มา : http://www.bcoms.net/temp/lesson6.asp

    ถามเองตอบเอง
    1.ความหมายของการสื่อสารข้อมูลคืออะไร
    -การโอนถ่ายข้อมูลหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง
    2.องค์ประกอบพื้นฐานของระบบสื่อสารข้อมูลมีอะไรบ้าง
    -1.ผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งข้อมูล
    2.ผู้รับหรืออุปกรณ์รับข้อมูล
    3.โปรโตคอล
    4.ซอฟต์แวร์
    5.ข่าวสาร
    6.ตัวกลาง

    ผู้อ่าน
    น.ส.ณัฐธฌา ศรีรัก เลขที่ 30 ม.4/1

    ตอบลบ
  15. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:05

    บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิต นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำของประเทศไทย ทำให้วงการไอทีสั่นสะเทือนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ระดับไฮเอนด์ BitFenix ซึ่งเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์จากประเทศไต้หวัน ที่มุ่งเน้นการดีไซน์ให้มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่เหนือชั้นและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ภายใต้การดูแลอย่างทุ่มเทและเอาใจใส่ของทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ

    ผลิตภัณฑ์หลักภายใต้แบรนด์ BitFenix ได้แก่ เคสคอมพิวเตอร์ สายเคเบิลหลากหลายรุ่น และ Accessories ต่างๆ สำหรับคอเกมส์และผู้ชื่นชอบการแต่งคอมพิวเตอร์ให้สวยงามและมีประสิทธิภาพสูงเหนือใคร

    เคสคอมพิวเตอร์ รุ่น Colossus ตัวเคสทำจากโลหะผิวด้าน สัมผัสได้ถึงความเรียบหรู โดดเด่นเหนือเคสทั่วไป และด้วยการดีไซน์อย่างเหนือระดับ รวมพลังกับเทคโนโลยีล้ำหน้าโดยเฉพาะการระบายความร้อน ถือว่าเป็นสุดยอดเคส

    เคสคอมพิวเตอร์ รุ่น Survivor ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการสร้างความแตกต่าง ทันสมัยเหนือใคร ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่

    ที่มา:
    http://www.newswit.com/
    ถามเอง_ตอบเอง
    1. บริษัทผู้ผลิต นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำของประเทศไทยคือ
    ตอบ บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด
    2.เปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ระดับไฮเอนด์ BitFenix ซึ่งเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าจากประเทศไหน
    ตอบ จากประเทศไต้หวัน
    นาย พีระยุทธ มากขาว เลขที่8 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  16. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:05

    บทที่ 4 > 4.3 หน่วยประมวลผลกลาง 4/18

    4.3 หน่วยประมวลผลกลาง

    หน่วยประมวลผลกลาง หรือไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่นำคำสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำมาแปลความหมายและกระทำตาม คำสั่งพื้นฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ซึ่งแทนได้ด้วยรหัสเลขฐานสอง
    การทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยการคำนวณทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน เช่น การบวก ลบ คูณ หาร การเปรียบเทียบข้อมูลสองจำนวน การควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลในส่วนต่างๆ ของระบบ เช่น เคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์รับข้อมูล อุปกรณ์แสดงผลกับหน่วยความจำ เป็นต้น
    ที่มา:
    http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson4/chap4-14.htm
    ถามเองตอบเอง
    1.หน่วยประมวลผลกลาง หรือเรียกว่าอะไร
    ตอบ ไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์
    2.หน่วยประมวลผลกลาง หรือไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่ทำอะไร
    ตอบ นำคำสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำมาแปลความหมายและกระทำตาม คำสั่งพื้นฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ซึ่งแทนได้ด้วยรหัสเลขฐานสอง
    นายธนพล เเป้นไทย เลขที่10 ม.4/1

    ตอบลบ
  17. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:05

    โทรทัศน์
    โทรทัศน์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โทรทัศน์ขาวดำ (Black - and - White Television) และโทรทัศน์สี (Color Television) สำหรับโทรทัศน์สียังสามารถแบ่งได้อีกหลายประเภท เช่น โทรทัศน์สีทั่วไป โทรทัศน์สีที่ใช้ระบบรีโมทคอนโทรล (Remote Control) โทรทัศน์สีที่มีจอภาพแบบจอโค้ง และแบบจอแบน โทรทัศน์สีมีขนาดแตกต่างกันไปตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ ที่ติดตั้งบริเวณหน้ารถยนต์หรือขนาด 14 นิ้วและ 20 นิ้ว เป็นต้น ตลอดจนขนาดใหญ่มาก ๆ ซึ่งบางคนนิยมเรียกกันว่า Home Theater จะมีราคาสูงมาก



    ขนาดของโทรทัศน์ เช่น 14 นิ้ว หรือ 20 นิ้ว นี้ดูได้จากการวัดทแยงจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่งของหน้าจอโทรทัศน์
    ส่วนประกอบและการทำงาน
    โทรทัศน์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีวงจรสลับซับซ้อน ดังนั้นส่วนประกอบของโทรทัศน์จึงพอสรุปให้เห็นได้ชัดเจนดังนี้ คือ 1. ส่วนประกอบภายนอก คือตัวโครงที่หุ้มห่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จอภาพซึ่งจะมีการเคลือบสารพิเศษทางด้านใน ปุ่มหรือสวิตซ์ต่าง ๆ และจะเสียบสายอากาศ เป็นต้น

    2. ส่วนประกอบภายใน คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตัวรับ - เปลี่ยนสัญญาณของภาพและเสียงที่มาในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าส่วนประกอบจอภาพและระบบเสียงรวมทั้งลำโพง เป็นต้น

    การทำงานของโทรทัศน์นั้นจะเริ่มต้นจากเมื่อคลื่นของภาพและเสียงที่ออกมาจากแหล่งกำเนิด เช่น สถานีโทรทัศน์ มาสู่เสาอากาศที่เป็นตัวรับสัญญาณคลื่น สัญญาณคลื่นจะส่งมาตามสายเข้าสู่ตัวรับสัญญาณภายในโทรทัศน์ ตัวรับสัญญาณคลื่นจะแยกคลื่นภาพกับคลื่นเสียงออกจากกัน สัญญาณคลื่นภาพจะถูกส่งไปยังหลอดภาพ เพื่อเปลี่ยนสัญญาณคลื่นเป็นสัญญาณไฟฟ้า


    การเปลี่ยนสัญญาณคลื่นเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่ขั้วของหลอดภาพ จะก่อให้เกิดลำอิเล็กตรอนวิ่งจากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง คือ จอภาพที่ด้านในที่เคลือบสารชนิดหนึ่ง เมือลำอิเล็กตรอนวิ่งไปกระทบจอภาพก็ทำให้เกิดเป็นภาพโดยการถ่ายเทพลังงาน ในลักษณะนิ่งเรียกว่าการกวาดภาพโดยกวาดเป็นเส้นทางตามแนวนอน จำนวน 525 เส้น หรือแบบ 625
    ที่มาhttp://www.housingsupplies.com/HTML/Today_Hit/tv.html
    คำถาม
    1.โทรทัศน์แบ่งออกเป็น กี่ประเภท มีอะไรบ้าง
    ตอบ 2 ประเภท คือ โทรทัศน์ขาวดำ และโทรทัศน์สี
    2.โทรทัศน์สียังสามารถแบ่งได้อีกหลายประเภท จงยกตัวอย่าง
    ตอบ โทรทัศน์สีทั่วไป โทรทัศน์สีที่ใช้ระบบรีโมทคอนโทรล (Remote Control) โทรทัศน์สีที่มีจอภาพแบบจอโค้ง และแบบจอแบน โทรทัศน์สีมีขนาดแตกต่างกันไปตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ
    นาย สุริยา ชูยัง ชั้น ม.4/1 เลขที่ 6

    ตอบลบ
  18. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:06

    ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

    เราได้ประโยชน์อะไรจากการเรียนคอมพิวเตอร์



    1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก

    .2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์
    ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI

    3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่

    4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว

    5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง

    6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม


    ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

    1. ประโยชน์ทางตรง

    ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆ
    เช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์เข้าช่วยงาน
    จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ



    2. ประโยชน์ทางอ้อม

    คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ
    เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น

    1. ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ขั้นตอนอะไรบ้าง
    - 2 ขันตอน
    1.1 ประโยชน์ทางตรง
    1.2 ประโยชน์ทางอ้อม
    2.ประโยชน์ทางอ้อมคือ
    -คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ
    เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น

    น.ส.วิภาวรรณ ขวัญเพรช เลขที่19 ชั้นม .4/1

    ตอบลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:06

    นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

    คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนำมาขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานำเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดำเนินการ จะได้วัตถุสำเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ
    ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ

    ที่มา:http://support.mof.go.th/net/techno.htm

    1.คำว่าเทคโนโลยี หมายถึงอะไร
    - การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ
    2.สารสนเทศ หมายถึงอะไร
    -ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ

    นางสาวพงศิกา ไชยวัฒน์ เลขที่21 ม.4/1

    ตอบลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:06

    ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์

    การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้

    1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผล
    ข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วย
    กันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
    - Keyboard
    - Mouse
    - Disk Drive
    - Hard Drive
    - CD-Rom
    - Magnetic Tape
    - Card Reader
    - Scanner

    2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)
    ทํ าหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
    - หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางาน
    ของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับ
    อุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
    - หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจาก
    หน่วยควบคุม และหน่วยความจํา

    3. หน่วยความจํ า (Memory)
    ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยัง
    เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น
    หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่ง
    หรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
    - ROM หน่วยความจําแบบถาวร
    - RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
    - หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลัก
    สามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น

    4. หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่
    ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
    - Monitor จอภาพ
    - Printer เครื่องพิมพ.
    - Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ

    แหล่งที่มา: http://www.geocities.com/kunkroo_computer/intro5.html

    คำถาม
    1.การทํางานของคอมพิวเตอร์ มีทั้งหมดกีส่วนอะไรบ้าง
    ตอบ 4ส่วน 1.หน่วยรับข้อมูล
    2.หน่วยประมวลผลกลาง
    3.หน่วยความจํา
    4.หน่วยแสดงผล
    2.หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น2หน่วยย่อยคืออะไรบ้าง
    ตอบ 1.หน่วยควบคุม
    2.หน่วยคํานวณและตรรก
    นางสาวณัฐวรา เกียงเอีย ม.4/1 เลขที่ 42

    ตอบลบ
  21. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:07

    คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
    เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการเพื่อ
    ทดแทนข้อจำกัดของมนุษย์ เรียกว่า 4 S special ดังนี้
    1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจำนวนมากและเป็นเวลานาน นับเป็น จุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทำงานแบบอัตโนมัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง
    ด้วย
    2. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล(Processing Speed) โดยใช้เวลาน้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำคัญส่วนหนึ่ง
    เช่นกัน
    3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลตามลำดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะในขั้นตอนการกำหนด
    4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคำสั่งและข้อมูลที่มนุษย์กำหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือหากมนุษย์ป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องด้วยเช่นกัน
    ที่มา: http://lpn.nfe.go.th/computer/unit8.htm
    ถามเองตอบเอง
    1.เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น กี่ประการ
    ตอบ 4 ประการ
    2. ความสามารถในการเก็บข้อมูลจำนวนมากและเป็นเวลานาน นับเป็น จุดเด่นประการที่เท่าไร คืออะไร
    ตอบ ประการที่ 1 คือ หน่วยเก็บ

    ชื่อผู้อ่าน นางสาว วรรณชนก คงสิน เลขที่ 34 ม.4/1

    ตอบลบ
  22. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:08

    เมาส์ไร้สาย Bluetooth รุ่นล่าสุดจากไมโครซอฟท์ที่ได้รับการออกแบบให้มีฟังก์ชันพิเศษติดตัวมาด้วย นั่นก็คือ มันสามารถควบคุมการนำเสนองงานด้วย PowerPoint ตลอดจนโฮมเธียเตอร์พีซี พูดง่ายๆ ก็คือ มันทำงานได้เหมือนอุปกรณ์พกพาไร้สายทีผู้นำเสนองานหลายๆ คนมักจะมีไว้ใช้ควบคุมพาวเวอร์พอยนต์ โดยชุดปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ด้านล่างของเมาส์ นอกจากนี้ มันยังมีตัวชี้แสงเลเซอร์ (Laser Pointer) ในตัวอีกด้วย เรียกได้ว่า ครบเครื่องจริงๆ
    ผู้ใช้สามารถใช้เมาส์ตัวนี้ควบคุม PowerPoint บนโน้ตบุ๊กได้ที่ระยะไม่เกิน 30 ฟุต (ประมาณ 9 เมตร) สนนราคาของเมาส์รุ่นนี้อยู่ที่ 79.95 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,700 บาท

    ที่มา:http://www.arip.co.th

    คำถาม
    1.ผู้ใช้สามารถใช้เมาส์ตัวนี้ควบคุม PowerPoint บนโน้ตบุ๊กได้ที่ระยะไม่เกินกี่ฟุต
    ตอบ 30ฟุต
    2.ราคาเมาส์รุ่นนี้มีราคาประมาณกี่บาท
    ตอบ 2700บาท
    ชื่อผู้อ่าน นาย ธวัชชัย เเก้วเล็ก ม.4/1 เลขที่ 13

    ตอบลบ
  23. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:08

    หน่วยรับข้อมูล หรือ หน่วยนำเข้าข้อมูล เป็นหน่วยเริ่มต้นในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เพราะ มีหน้าที่ในการนำข้อมูลหรือคำสั่งต่าง ๆ เข้าไปในระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์

    อุปกรณ์รับข้อมูลของหน่วยรับข้อมูล มีหลายชนิด เช่น แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน จอยสติก จอสัมผัส แต่ทุกชนิดทำหน้าที่ รับข้อมูลหรือคำสั่ง เข้าสู่ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ เหมือนกัน

    อุปกรณ์ของหน่วยรับข้อมูล แต่ละชนิดมีวิธีการนำเข้าข้อมูล หรือรับคำสั่ง ตลอดจนลักษณะของรูปแบบข้อมูลที่นำเข้าต่างกัน

    หน้าที่สำคัญ คือ เป็นอุปกรณ์ ที่รับข้อมูล หรือคำสั่ง เข้าสู่ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน่วยรับข้อมูล จึงเป็นหน่วยทำงานที่ช่วยให้ มนุษย์ สามารถติดต่อ สั่งงาน เครื่องคอมพิวg9viN


    ที่มา:http://www.thaigoodview.com/

    ถามเองตอบเอง
    1.หน่วยนำเข้าข้อมูลคืออะไร
    ตอบ เป็นหน่วยเริ่มต้นในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เพราะมีหน้าที่ในการนำข้อมูลหรือคำสั่งต่างๆเข้าไปในระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
    2.หน้าที่สำคัญของหน่วยรับเข้าคืออะไร
    ตอบ เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลหรือคำสั่งเข้าระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์

    ชื่อผู้อ่าน น.ส.จุฑามาศ ทองด้วง เลขที่28 ม.4/1

    ตอบลบ
  24. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:10

    Lenovo เปิดตัว”แท็บเล็ต”ของทางบริษัทภายใต้แบรนด์ ThinkPad

    แม้ Lenovo จะเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่เปิดตัว”แท็บเล็ต”ค่อนข้างช้ากว่าคู่แข่ง ในขณะที่ผู้นำตลาดอย่าง iPad ได้ออกตัวมาสองรุ่นแล้ว ดังนั้น แท็บเล็ต ThinkPad คงต้องพยายามที่จะสร้างความแตกต่าง เพื่อดึงความสนใจของผู้บริโภคจากคู่แข่งให้ได้ จากภาพที่หลุดออกมา แท็บเล็ต ThinkPad ของ Lenovo จะมาพร้อมกับด็อคกิ้งที่ทำให้คุณสามารถใช้งานได้แบบเดียวกับ”โน้ตบุ๊ค”



    แท็บเล็ต ThinkPad ของ Lenovo จะมีหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว (1280×800 พิกเซล) โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Tegra 2 จาก NVIDIA ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb โดยมีสตอเรจสูงสุดถึง 64GB หากรายงานจากแหล่งข่าวไม่คลาดเคลื่อน แท็บเล็ต ThinkPad จะมีน้ำหนักเพียง 1.6 ปอนด์ (ประมาณ กรัม) และมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า และหลัง และมีทั้งพอร์ต USB 2.0, microUSB, miniHDMI และช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ SD



    คุณสมบัติการทำงานอื่นๆ ของ”แท็บเล็ต” ThinkPad สนับสนุนการทำหน้าที่เป็นโมบาย”ฮอตสปอต” และทำงานด้วยแบตเตอรี่ได้นาน 8 ชม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังรองรับการทำงานในรูปแบบรีโมทเดสก์ทอป และการใช้ Android pen แม้ Lenovo จะไม่ยืนยันสำหรับข้อมูลที่หลุดออกมา แต่ก็ไม่ปฎิเสธด้วยเช่นกัน สนนราคาของแท็บเล็ต ThinkPad จะอยู่ที่ 500 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 บาท)

    ที่มา: http://www.isnhotnews.com/2011/04/lenovo-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B2/

    ถามตอบ
    1. Lenovo จะมีหน้าจอสัมผัสขนาด เท่าไร
    ตอบ 10.1 นิ้ว
    2. Lenovo รุ่นนี้ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ อะไร
    ตอบ Android 3.0 Honeycomb โดยมีสตอเรจสูงสุดถึง 64GB

    นาย ศาศวัต ข่ายม่าน เลขที่ 12 ชั้น ม4/1

    ตอบลบ
  25. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:10

    การทำความสะอาดระบบคอมพิวเตอร์

    1. ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด

    2. อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด ใช้ผ้าแห้งดีกว่า

    3. อย่าใช้สบู่ น้ำยาทำความสะอาดใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบของเครื่อง เกิดความเสียหาย

    4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์ต่างๆ

    5. ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ

    6. ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่คู่มือแนะนำไว้เท่านั้น

    7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์

    8. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

    ที่มา : http://www.gotoknow.org/blog/boonmo/20511

    1.ควรทำความสะอาดคอมพิวเตอร์อย่างไรอธิบายมาพอสังเขป

    ตอบ ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด

    2.ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างไร

    ตอบ ที่มีคู่มือแนะนำไว้เท่านั้น

    ชื่อผู้อ่าน นางสาว ขวัยนภา อาจเส็ม เลขที่16 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  26. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:10

    คอมพิวเตอร์ คือ
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

    การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 5 หน่วย คือ

    หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    กลไกการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากองค์ประกอบต่างๆ เริ่มด้วยเมื่อมีการกดปุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมหรือชุึดคำสั่งที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมที่จะทำงาน เมื่อตรวจสอบเสร็จคอมพิวเตอร์จะแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะทำงาน ก็จะมีการป้อนคำสั่งหรือโปรแกรมหรือข้อมูลโดยผ่านหน่วยรับข้อมูล แล้วนำไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก ต่อจากนั้น หน่วยประมวลผลกลางก็จะทำการตามคำสั่งของโปรแกรมซึ่งเรียกว่า การประมวลผล แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้เก็บไว้ที่ หน่วยความจำ และจะแสดงผลลัพธ์ผ่านหน่วยแสดงผลเมื่อมีคำสั่งให้แสดงผลลัพธ์

    1. การทำงานของคอมพิวเตอร์มีกี่หน่วยอะไรบ้าง
    -5 หน่วย
    1.หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    2.หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    3.หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    4.หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    5.หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    2.คอมพิวเตอร์คือ
    -อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
    น.ส. อรนิภา ชนะนาค เลขที่20 ชั้น ม.4/1

    ที่มา/http://www.punyisa.com/unit2/unit2_3-1.htm

    ตอบลบ
  27. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:13

    บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

    ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
    พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา

    ที่มา:http://support.mof.go.th/net/techno.htm

    ถามเองตอบเอง
    1.ในอดีตเทคโนโลยีมีการกำเนิดประมาณกี่ปี
    ตอบ 4600ล้านปี
    2.เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อมนุษย์อย่างไร
    ตอบ สร้างที่พักอาศัย

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวอนุธิดา จันสุข เลขที่22 ม.4/1

    ตอบลบ
  28. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:14

    หน่วยความจำหลัก
    คือ หน่วยความจำที่ต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยประมวลผลกลางสามารถใช้งานได้โดยตรง หน่วยความจำ ชนิดนี้จะเก็บข้อมูล และชุดคำสั่งในระหว่างประมวลผล และมีกระแสไฟฟ้า เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลในหน่วย ความจำนี้จะหายไปด้วย หน่วยความจำหลักที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน เป็นชนิดที่ทำมาจากสารกึ่งตัวนำ หน่วยความจำชนิดนี้มีขนาดเล็ก ราคาถูก แต่เก็บข้อมูลได้มาก และสามารถให้หน่วยประมวลผลกลาง นำข้อมูลมาเก็บ และเรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว
    เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องอาศัยหน่วยความจำหลัก เพื่อใช้เก็บข้อมูลและคำสั่ง ซีพียูจะทำหน้าที่นำคำสั่ง จากหน่วยความจำหลัก มาแปลงความหมายแล้วกระทำตาม เมื่อทำเสร็จก็จะนำผลลัพธ์มาเก็บไว้ในหน่วยความจำหลัก ซีพียูจะกระทำตามขั้นตอนเช่นนี้เป็นวงรอบเรื่อยๆ ไปอย่างรวดเร็ว เรียกการทำงานลักษณะนี้ว่า วงรอบคำสั่ง (Execution cycle)
    จากการทำงานเป็นวงรอบของซีพียูนี้เอง การอ่านเขียนข้อมูลลงในหน่วยความจำหลัก จะต้องทำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันการทำงานของซีพียู โดยปกติุุถ้าให้ซีพียูทำงานที่มีความถี่ของสัญญาณนาฬิกา 2,000 เมกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำหลักที่ใช้ทั่วไปมักจะมีความเร็วไม่ทันช่วงติดต่ออาจมีเพียง 100 เมกะเฮิรตซ์
    หน่วยความจำหลักที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ จึงต้องกำหนดคุณลักษณะในเรื่องช่วงเวลาเข้าถึงข้อมูล (Accesss time) ค่าที่ใช้ทั่วไปอยู่ในช่วงประมาณ 60 นาโนวินาที ถึง 125 นาโนวินาที (1 นาโนวินาทีเท่ากับ 10 ยกกำลัง -9 วินาที) แต่อย่างไรก็ตาม มีการพัฒนาให้หน่วยความจำ สามารถใช้กับซีพียูที่ทำงานเร็วขนาด 33 เมกะเฮิรตซ์ โดยการสร้าง หน่วยความจำพิเศษมาึคั่นกลางไว้ ซึ่งเรียกว่า หน่วยความจำแคช (cache memory) ซึ่งเป็นหน่วยความจำที่เพิ่มเข้ามา เพื่อนำชุดคำสั่ง หรือข้อมูลจากหน่วยหลักมาเก็บไว้ก่อน เพื่อให้ซีพียูเรียกใช้ได้เร็วขึ้น

    แบ่งตามลักษณะการเก็บข้อมูล
    1.หน่วยความจำแบบลบเลือนได้ (volatile memory)
    คือถ้าเป็นหน่วยความจำที่เก็บข้อมูลไว้แล้ว หากไฟฟ้าดับ คือไม่มีไฟฟ้าจ่ายให้ กับวงจรหน่วยความจำ ข้อมูลที่เก็บไว้จะหายไปหมด

    2. หน่วยความจำไม่ลบเลือน (nonvolatile memory)
    คือ หน่วยความจำเก็บข้อมูลได้ โดยไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่เลี้ยงวงจร

    ที่มา: http://www.chakkham.ac.th

    ถามเองตอบเอง

    1.หน่วยความจำหลัก คือ
    - หน่วยความจำที่ต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยประมวลผลกลางสามารถใช้งานได้โดยตรง

    2.หน่วยความจำไม่ลบเลือน คือ อะไร
    - คือ หน่วยความจำเก็บข้อมูลได้ โดยไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่เลี้ยงวงจร

    นางสาวพิศมัย มงชู เลขที่18 ชั้นม.4/1
    -

    ตอบลบ
  29. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:16

    หน่วยรับข้อมูล
    หน่วยรับข้อมูล หรือ หน่วยนำเข้าข้อมูล เป็นหน่วยเริ่มต้นในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เพราะ มีหน้าที่ในการนำข้อมูลหรือคำสั่งต่าง ๆ เข้าไปในระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์

    อุปกรณ์รับข้อมูลของหน่วยรับข้อมูล มีหลายชนิด เช่น แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน จอยสติก จอสัมผัส แต่ทุกชนิดทำหน้าที่ รับข้อมูลหรือคำสั่ง เข้าสู่ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ เหมือนกัน

    อุปกรณ์ของหน่วยรับข้อมูล แต่ละชนิดมีวิธีการนำเข้าข้อมูล หรือรับคำสั่ง ตลอดจนลักษณะของรูปแบบข้อมูลที่นำเข้าต่างกัน

    หน้าที่สำคัญ คือ เป็นอุปกรณ์ ที่รับข้อมูล หรือคำสั่ง เข้าสู่ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน่วยรับข้อมูล จึงเป็นหน่วยทำงานที่ช่วยให้ มนุษย์ สามารถติดต่อ สั่งงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ได้

    ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/lopburi/kanidta_v/computer/sec01p01.html

    ถามเอง ตอบเอง

    1.หน่วยรับข้อมูลมีหน้าที่ทำอะไร
    ตอบ มีหน้าที่ในการนำข้อมูลหรือคำสั่งต่าง ๆ เข้าไปในระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์

    2.อุปกรณ์รับข้อมูลของหน่วยรับข้อมูล มีอะไรบ้าง
    ตอบ แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน จอยสติก จอสัมผัส เป็นต้น


    ชื่อผู้อ่าน นางสาว อัญชลี ล้วนเส้ง เลขที่41 ม.4/1

    ตอบลบ
  30. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:17

    ไบออส (BIOS : Basic input Output System)
    คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานในการบู๊ตเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ถูกติดตั้งอยู่ในชิบประเภท ROM บนเมนบอร์ด การทำงานของ ไบออส จะทำงานหลังจากมีการเปิดสวิทซ์ ทันที ที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยจะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ เช่น harddisk, disk drive, cd-rom, ram เป็นต้น
    ไบออส บางครั้งก็เรียกว่า ซีมอส (CMOS) แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นคนละส่วนกัน คือ ไบออส เป็นโปรแกรมที่เก็บในรอม ไม่จำเป็นต้องมีพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการเก็บข้อมูล ส่วน ซีมอส จะทำหน้าที่เก็บข้อมูลในการบู๊ตระบบ มีหลักการทำงานคล้ายแรม ซึ่งต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าเลี้ยงตลอดเวลา โดยปกติจะอาศัยพลังงานจาก แบตเตอร์รี่ ภายในเครื่องคอมฯ (ปัจจุบัน ไบออสและซีมอส ได้ถูกรวมกันเป็นชิบตัวหนึ่ง ๆ )
    การ setup BIOS
    เราสามารถเข้าไปกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ และแก้ไขข้อมูลบางอย่างในไบออสได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะเวลาที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม เช่น ram, harddisk เป็นต้น การเข้าไปกำหนดรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมนั้น จะขึ้นกับยี่ห้อของไบออส เนื่องจากแต่ละบริษัทก็มีวิธีการเข้าไป setup ต่าง ๆ กัน สำหรับไบออสที่ใช้งานกันโดยทั่วไป เช่น Ami, Award, Phoenix เป็นต้น ตัวอย่างการ setup bios
    • เปิดเครื่องเข้าระบบคอมพิวเตอร์
    • หน้าจอจะเป็นสีดำ สังเกตุข้อความด้านล่าง จะมีคำสั่งให้กด เช่น 'Press DEL to enter SETUP' เป็นต้น มีความหมายคือ ให้กดปุ่ม Delete เพื่อเข้าไป setup ใน BIOS
    • BIOS?บางยี่ห้อ อาจกำหนดให้กด F1 แทนปุ่ม Delete ก็ได้
    • หลังจากเข้าไปแล้ว จะเห็นหน้าสีดำ และมีหัวข้อต่าง ๆ ให้เลือก
    • ลองเลือกเข้า ห้วข้อ 'STANDARD CMOS SETUP' (สำหรับ bios Award) รายละเอียดจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ วัน เวลา ของเครื่อง, harddisk, disk drive เป็นต้น
    • การปรับเปลี่ยนจะใช้ลูกศร ขึ้นลง ซ้ายมือ
    • ถ้าไม่ต้องการแก้ไขใด ๆ ให้กดปุ่ม ESC เพื่อออกจากโปรแกรม

    ที่มา http://www.it-guides.com/

    ถามเองตอบเอง

    1.เนื่องจากแต่ละบริษัทก็มีวิธีการเข้าไป setup ต่าง ๆ กัน สำหรับไบออสที่ใช้งานกันโดยทั่วไป เช่นอะไรบ้าง
    - Ami, Award, Phoenix เป็นต้น ตัวอย่างการ setup bios

    2.ไบออส บางครั้งก็เรียกว่าอะไร
    - ซีมอส (CMOS)

    ผู้อ่าน นางสาว เยาวลักษณ์ เพ็ชรคง ม.4/1 เลขที่ 35

    ตอบลบ
  31. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:18

    ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

    เราได้ประโยชน์อะไรจากการเรียนคอมพิวเตอร์



    1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก

    2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์
    ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI

    3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่

    4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว

    5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง

    6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม


    ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

    1. ประโยชน์ทางตรง

    ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆ
    เช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์เข้าช่วยงาน
    จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ



    2. ประโยชน์ทางอ้อม

    คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ
    เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น

    1.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง
    - 2 ประเภท
    1.1 ประโยชน์ทางตรง
    1.2 ประโยชน์ทางอ้อม
    2. ประโยชน์ทางอ้อมคือ
    - คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ
    เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น
    น.ส. วิภาวรรณ ขวัญเพรช เลขที่19 ชั้น ม.4/1
    http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/chanthaburi/athiga_p/com_p5/com01p03.html

    ตอบลบ
  32. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:18

    โทรศัพท์


    เครื่องโทรศัพท์ ที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่หลายรูปแบบ หลายรูปร่าง หลายขนาดหลายราคา มีทั้งแบบรูปที่ทันสมัย หรือแบบทรงโบราณ บางรุ่นมีหน่วยความจำ หรือมีปุ่มอำนวยความสะดวกมากมาย มีทั้งแบบกดปุ่มหรือแบบหมุน ให้ประชาชน ได้เลือกใช้ตามความต้องการ แต่อย่างไรก็ตามเครื่องโทรศัพท์ทุกเครื่องมีหน้าที่เหมือนกันคือ ใช้สำหรับสนทนากัน ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามานั้นเป็นการช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย ในการใช้งานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง



    รูปที่ 2.2 แสดงสัญลักษณ์ของเครื่องโทรศัพท์

    2.1 ส่วนประกอบเบื้องต้นของเครื่องโทรศัพท์

    เนื่องจากเครื่องโทรศัพท์ที่อยู่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเข้าไปมากมาย แท้จริงแล้วถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เครื่องโทรศัพท์ก็สามารถทำงานได้ ดังนั้นจึงขอกล่าวเฉพาะส่วนประกอบเบื้องต้นที่สำคัญจริง ๆ เท่านั้น



    รูปที่ 2.3 แสดงส่วนประกอบภายนอกของเครื่องโทรศัพท์





    รูปที่ 2.4 แสดงวงจรของเครื่องโทรศัพท์เบื้องต้น


    2.1.1 ปากพูด (Transmitter)
    โดยทั่วไป เราเรียกว่า "ปากพูด" อุปกรณ์ตัวนี้แท้จริงแล้วก็คือ ไมโครโฟน (Microphone) ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนเสียงพูดให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า ปากพูดที่ใช้อยู่ ในเครื่องโทรศัพท์ปัจจุบันมี 3 แบบ คือ
    1. คาร์บอน (Carbon)
    2. ไดนามิกส ์(Dynamic)
    3. คอนเดนเซอร ์(Condenser)
    เครื่องรุ่นใหม่ ๆ จะนิยมใช้ คอนเดนเซอร์ เป็น ปากพูด เพราะขนาดเล็ก ราคาถูก ความไวสูงกว่าแบบอื่น ๆ

    2.1.2 หูฟัง (Receiver)
    โดยทั่วไปเรียกว่า "หูฟัง" ซึ่งก็คือ ลำโพง (Speaker) ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณเสียง ลักษณะโครงสร้างของ หูฟัง อาจไม่เหมือนลำโพง ทั่ว ๆ ไปนักเพราะต้องออกแบบให้มีขนาดเล็กและอยู่ในรูปร่างที่ถูกจำกัดไว้ด้วยพื้นที่ แต่หลักการทำงานก็ยังคงเหมือนเดิม

    2.1.3 ฮุคสวิตช์ (Hook Switch)
    ลักษณะของ ฮุคสวิตช์ ก็คือ สวิตช์ 2 ทาง ทำหน้าที่เลือกว่าจะให้สายโทรศัพท์ต่อเข้ากับวงจรกระดิ่ง

    ที่มา http://www.one-2-win.com/telephone_02.htm
    คำถาม
    1. ลักษณะของ ฮุคสวิตช์ ก็คือ สวิตช์ 2 ทาง ทำหน้าที่อะไร
    ตอบ ทำหน้าที่เลือกว่าจะให้สายโทรศัพท์ต่อเข้ากับวงจรกระดิ่ง
    2. ปากพูดที่ใช้อยู่ ในเครื่องโทรศัพท์ปัจจุบันมีกี่แบบ
    ตอบ 3 แบบ คือ
    1. คาร์บอน (Carbon)
    2. ไดนามิกส ์(Dynamic)
    3. คอนเดนเซอร ์(Condenser)
    นาย วัชรพงศ์ ขวัญเพ็ชร ชั้น ม.4/1 เลขที่ 4

    ตอบลบ
  33. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:19

    Acer Aspire One 522 เน็ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer


    Acer Aspire One 522 เน๊ตบุ๊กตัวใหม่ของทาง Acer ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมาก หลังจากข่าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาข่าวของ Acer Aspire One 522 นั้นก็เงียบหายไปเป็นเวลานานและข่าวที่เรารอคอยมานานนั้นก็ได้ออกมาให้ประชาชนที่รอคอยนั้นรับทราบกันแล้ว เน็ตบุ๊กของ Acer ตัวนี้นั้นทำได้อย่างลงตัวแม้ว่าเครื่องจะเล้กเพียงแค่ 10 นิ้ว แต่คุณภาพนั้นไม่ได้เล็กอย่างที่ตาเห็นเลยครับ เพราะได้มีการใช้ AMD Fusionในเน็ตบุ๊กเครื่องนี้ด้วย

    Acer Aspire One 522 นั้นมีองค์ประกอบอะไรบ้างมาดูกันดีกว่าครับ มีการใช้เอเอ็มดีฟิวชั่น APU’Ontario’เอเอ็มดี C – 50 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลหลัก 1GHz คู่กับ TDP ทั้งหมดของ 9W กราฟิกนั้นใช้ชิป Radeon 6250 DirectX 11 และสามารถใช้ UVD3 ได้อีกด้วย จอแสดงผลขนาด 10 นิ้วความ ละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 มาตรฐานการแสดงผล 1024 x 600 นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ HDMI เพื่อใช้ประโยชน์ของการเชื่อมต่อต่างๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีระบบการเชื่อม Wi – Fi ขนาดของ Ram อยู่ที่ 2 GB และมีขนาดของ Harddisk ถึง 500 GB ด้วยกัน เห็นไหมครับเพื่อนๆ ว่า Acer นั้นทำออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด ทั้งด้านความแรงของเครื่อง ความสวยงามที่สรรสร้างออกมาอย่างตั้งใจ เพื่อนๆคนไหนสนใจต้องการเป็นเจ้าของนั้นก็ไม่ลำบากอะไรเลย ด้วยราคาที่ออกวางจำหน่ายนั้น เป็นราคาที่น่าดีใจยิ่งนักเพียงแค่ 12,829 บาทเท่านั้นเอง ของดีดีแบบนี้ไม่ควรพลาดนะครับ

    ที่มา : http://www.compgamer.com/home/?p=27759

    ถามตอบ

    1. Acer Aspire One 522 มีราคาจำหน่ายที่เท่าไร
    ตอบ 12,829 บาท
    2. ขนาด Ram Acer Aspire One 522 อยู่ที่เท่าไร
    ตอบ 2GB

    ผู้อ่าน: เด็กชาย เกียรติศักดิ์ แก้วศรี เลขที่ 11 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  34. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:20

    ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์

    การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้

    1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผล
    ข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วย
    กันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
    - Keyboard
    - Mouse
    - Disk Drive
    - Hard Drive
    - CD-Rom
    - Magnetic Tape
    - Card Reader
    - Scanner

    2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)
    ทํ าหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
    - หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางาน
    ของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับ
    อุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
    - หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจาก
    หน่วยควบคุม และหน่วยความจํา

    3. หน่วยความจํ า (Memory)
    ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยัง
    เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น
    หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่ง
    หรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
    - ROM หน่วยความจําแบบถาวร
    - RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
    - หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลัก
    สามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น

    4. หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่
    ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
    - Monitor จอภาพ
    - Printer เครื่องพิมพ.
    - Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ

    แหล่งที่มา: http://www.geocities.com/kunkroo_computer/intro5.html

    ถามเองตอบเอง

    1.การทํางานของคอมพิวเตอร์ มีทั้งหมดกีส่วนอะไรบ้าง
    ตอบ 4ส่วน 1.หน่วยรับข้อมูล
    2.หน่วยประมวลผลกลาง
    3.หน่วยความจํา
    4.หน่วยแสดงผล
    2.หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น2หน่วยย่อยคืออะไรบ้าง
    ตอบ 1.หน่วยควบคุม
    2.หน่วยคํานวณและตรรก

    นางสาวณัฐวรา เกียงเอีย ม.4/1 เลขที่ 42

    ตอบลบ
  35. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:20

    ระบบปฏิบัติการบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์

    ในปัจจุบันนี้ ระบบปฏิบัติการบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยม จะแยกตามฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานได้เป็น 2 ระบบ คือระบบปฏิบัติการที่ทำงานบนเครื่อง ไอบีเอ็มพีซี (IBM personal Computer) หรือ เลียนแบบไอบีเอ็มพีซี (IBM PC Competible) และระบบปฏิบัติการที่ทำงานบนเครื่องแมคอินทอช (Macintosh) โดยปกติแล้ว โปรแกรมประยุกต์ใด ๆ จะสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น เช่น โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนเครื่องไอบีเอ็มพีซี ก็จะไม่สามารถนำไปใช้งานบนเครื่องแมคอินทอช เพราะเครื่องไอบีเอ็มพีซี จะนิยมใช้ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์ที่เรียกว่าเอ็มเอสดอส (MS - DOS)หรืออาจใช้ระบบที่ใหม่กว่าคือไมโครซอฟต์วินโดว์ (Microsoft Windows) หรือระบบปฏิบัติการแบบเปิดในตระกูลยูนิกซ์ เช่น SCO UNIX หรือ LINUX ในขณะที่เครื่องแมคอินทอชใช้ระบบปฏิบัติการที่เรียกว่าแมคอินทอชซิสเต็มเซเว่น (Macintosh System 7) ซึ่งออกแบบโดยบริษัทแอปเปิล การที่เครื่องสองชนิดใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน เนื่องมาจากมีหน่วยประมวลผลกลางไม่เหมือนกัน ผู้ที่จะผลิตซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์จะต้องเลือกที่จะผลิตซอฟต์แวร์ให้ใช้บนระบบใดระบบหนึ่ง หรือถ้าจะให้ใช้ได้บนระบบปฏิบัติการทั้งสองชนิดก็ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาสองชุด
    ที่มา:http://cptd.chandra.ac.th/
    ถามเองตอบเอง
    1ระบบปฏิบัติการบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยม จะแยกตามฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานได้เป็นกี่ระบบ
    ตอบ 2 ระบบ
    2.ระบบปฏิบัติการบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง
    ตอบ ระบบปฏิบัติการที่ทำงานบนเครื่อง ไอบีเอ็มพีซี
    ชื่อผู้อ่าน นาย ทรงสุริยา ทิพศรี เลขที่9 ม.4/1

    ตอบลบ
  36. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:21

    นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

    คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนำมาขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานำเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดำเนินการ จะได้วัตถุสำเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ
    ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ

    ที่มา:http://support.mof.go.th/net/techno.htm

    ถามเองตอบเอง

    1.เทคโนโลยี หมายถึงอะไร
    ตอบ การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ
    2.สารสนเทศ หมายถึงอะไร
    ตอบ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวพงศิกา ไชยวัฒน์ เลขที่21 ม.4/1

    ตอบลบ
  37. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:23

    เมนบอร์ด หรือ มาสเตอร์บอร์ด
    Main Board หรือ?Master Board เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ เป็นแผงวงจรหลักของคอมพิวเตอร์ จะติดตั้งอยู่ภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน ส่วนประกอบหลักของเมนบอร์ด ประกอบด้วย
    • พอร์ต (port)
    เป็นจุดที่ให้เมนบอร์ดติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกได้ เช่น เครื่องพิมพ์ เม้าส์ เป็นต้น
    • สล๊อตหน่วยความจำ (memory slot)
    เป็นซ๊อกเกตบนเมนบอร์ดสำหรับเสียบแผงหน่วยความจำหลักของเครื่อง
    • ชิปเซต (chipset)
    เป็นชุดของชิปที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลบนเมนบอร์ด
    • หน่วยความจำ แคช (cache memory)
    ทำหน้าที่พักข้อมูลที่เพิ่งถูกเรียกใช้ เมื่อถูกเรียกใช้งานซ้ำ ซีพียูจะดึงข้อมูลจากหน่วยความจำนี้ขึ้นมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างของแคชเมมโมรี่ คือ L1, L2 ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น
    • โปรเซสเซอร์ ซ็อกเกต (processor socket)
    เป็นที่ติดตั้งซีพียูเข้ากับเมนบอร์ด
    • จัมเปอร์ (jumper)
    ใช้สำหรับการปรับแต่งการใช้เมนบอร์ด เช่นกำหนดเรื่องความเร็วของซีพียู เป็นต้น ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับ mainboard ไม่จำเป็นต้องมีการเซ็ทจัมเปอร์แล้ว แต่จะเป็นการเซ็ทแบบอัตโนมัติให้
    • สล็อตการ์ดขยาย (expansion slot)
    เป็นช่องสำหรับเสียบการ์ดที่ทำหน้าที่ขยายความสามารถของคอมพิวเตอร์
    • ชิปไบออส (bios ย่อมาจาก basic imput/output system)
    ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ติดบนเมนบอร์ด
    • ชิปซีมอส (cmos ย่อมาจาก complementary metal oxide semiconductor)
    ทำหน้าที่เก็บเวลาของระบบและค่าต่าง ๆ ที่ bios ได้กำหนดไว้ เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีไฟมาเลี้ยงจากแบตเตอร์รี่ทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับ
    ซีมอส

    ที่มา http://www.it-guides.com/

    ถามเองตอบเอง

    1.ชิปไบออสย่อมาจากอะไร
    - ย่อมาจาก basic imput/output system


    2.พอร์ต (port)เป็นจุดที่ให้เมนบอร์ดติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกได้แก่อะไรบ้าง
    - เครื่องพิมพ์ เม้าส์ เป็นต้น

    ผู้อ่าน เด็กชาย ธีระยุทธ แก้วดี ม.4/1 เลขที่ 36

    ตอบลบ
  38. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:24

    ประเภทของซอฟต์แวร์
    หน้าจอของโปรแกรมประยุกต์ เว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์การแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์แบ่งออกได้เป็นหลายแบบ เช่น
    การแบ่งเชิงเทคนิค อาจแบ่งซอฟต์แวร์เป็น 3 ประเภทหลักคือ
    ซอฟต์แวร์ระบบ (System/Infrastructure software) ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยรวมถึงระบบปฏิบัติการ ไดรเวอร์ และระบบหลักของคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
    โปรแกรมประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไปเช่น โปรแกรมสำนักงาน ฐานข้อมูล คอมพิวเตอร์เกม เว็บเบราว์เซอร์ โดยโปรแกรมประยุกต์จะมีจียูไอ
    โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Tools/Utilities) ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้ เครื่องมือต่าง ๆ ประกอบไปด้วย คอมไพเลอร์ อินเตอร์พรีเตอร์ ดีบักเกอร์
    การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ
    ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package software) ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการเป็น transaction หรือ license
    ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน (Outsources software development) เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป ส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จะเป็นของผู้ที่ว่าจ้างให้พัฒนาขึ้น
    การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
    ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป (Enterprise software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา/จัดการทรัพยากรของ บุคคล/องค์กร เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์จัดทำเอกสาร เป็นต้น
    ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก (Mobile applications software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ PDA โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ
    (1) ซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนธุรกรรมทางธุรกิจ (Business applications) เช่น Mobile banking, Mobile payment, GPS on Mobile, Mobile applications for business process management และ
    (2) ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการและบันเทิง (Entertainment applications) ซึ่งรวมเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่
    ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded System Software) เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ เช่น ระบบ GPRS ระบบทำความเย็นอัจริยะ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ เป็นต้น

    ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki

    ถามเองตอบเอง

    1.การแบ่งเชิงเทคนิคจะแบ่งชอฟต์แวร์เป็นกี่ประเภทหลัก
    ตอบ 3 ประเภท
    2. ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ คืออะไร
    ตอบ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

    ชื่อผู้อ่าน น.ส. เกศแก้ว สระแก้ว เลขที่ 33 ม. 4/1

    ตอบลบ
  39. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:24

    เปิดตัว "ไมโครซอฟท์ตัวใหม่"

    ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft® Dynamics CRM 2011 ผนวกบริการคลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรธุรกิจไทยโดยโรงพยาบาลศิครินทร์ลูกค้ารายแรกในไทยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ในการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
    ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดสำหรับเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างครบวงจร Microsoft® Dynamics CRM 2011 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ on-premise และแบบบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากไมโครซอฟท์จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้กับองค์กรธุรกิจด้วยประสบการณ์ในการใช้งานที่คุ้นเคย ทั้งยังมีความสามารถในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นอย่างราบรื่น ให้กระบวนการทางธุรกิจที่มีประสิทธิผลรวมทั้งความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ จึงสามารถสร้างประสบการณ์การให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้าและช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ องค์กรธุรกิจในประเทศไทยจะมั่นใจได้ถึงเครื่องมือการจัดการธุรกิจ CRM ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    ที่มา :
    http://www.newswit.com/

    ถามเอง ตอบเอง
    1. ไมโครซอฟท์ที่เปิดตัวใหม่มีชื่อว่าอะไร
    ตอบ Microsoft® Dynamics CRM 2011

    2. ลูกค้ารายเเรกที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้คือ...
    ตอบ โรงพยาบาลศิครินทร์

    ผู้อ่าน นาย ณัฐวัฒน์ สุนทรนนท์ เลขที่43 ม.4/1

    ตอบลบ
  40. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:26

    การเปิด-ปิดวินโดวส์
    การเปิด-ปิดวินโดวส์ ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่หลายๆ คงมองข้ามไป แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ ก็อยากจะแนะนำให้รู้จักว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
    การเปิดวินโดวส์ หมายถึงอะไร
    การเปิดวินโดวส์ หมายถึงการเปิดสวิทซ์ที่ตัวคอมพิวเตอร์? โดยปกติแล้วหลังจากติดตั้งโปรแกรม Windows เสร็จแล้ว การเปิดคอมพิวเตอร์ จะเป็นการเปิด Windows นั่นเอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำอะไร? ยกเว้นวินโดวส์ที่มีการติดตั้งรหัสผ่านไว้? (ซึ่งทางเราขอแนะนำให้ให้ทุกคน ติดตั้งรหัสผ่านนี้เสมอ) ซึ่งจะต้องใส่ User และ Password ให้ถูกต้อง
    การปิดวินโดวส์ หมายถึงอะไร
    การปิดวินโดวส์ ปกติจะหมายถึงการเลิกใช้คอมพิวเตอร์? แต่บางท่านอาจต้องการหยุดการใช้งานชั่วคราว และต้องการเปิดวินโดวส์เข้ามาใช้งานใหม่ ด้วยเหตุนี้ Microsoft จึงได้มีการเพิ่มความสามารถพิเศษ (Options) ในการปิด Windows ไว้หลายรูปแบบ ตามความต้องการของแต่ละบุคคลด้งนี้ Restart - หมายถึง การเริ่มต้นวินโดวส์ใหม่ อาจสืบเนื่องมาจากมีการติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ เข้ามา หรือเครื่องคอมฯ มีปัญหาบางอย่างและต้องการการ restart ใหม่ การ Restart Windows จะทำงานได้เร็วกว่าการ เริ่มต้นวินโดวส์ โดยการเปิดใหม่
    Shutdown - หมายถึง การปิดวินโดวส์ และไม่ต้องการใช้งานในขณะนั้น
    Log off -? หมายถึง การปิดการใช้งานวินโดวส์ชั่วคราว และปิด User การทำงานนั้นขณะนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่น แอบเข้ามาใช้งานคอมพิวเตอร์ของเรา
    Hibernate? หมายถึง การปิดการทำงานวินโดวส์ชั่วคราว (ไม่ได้ปิดแบบ Shutdown)? สามารถเรียก Windows กลับมาใช้งานใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
    ที่มา http://www.it-guides.com
    ถามเองตอบเอง

    1.การปิดวินโดวส์ หมายถึงอะไร
    - การปิดวินโดวส์ ปกติจะหมายถึงการเลิกใช้คอมพิวเตอร์? แต่บางท่านอาจต้องการหยุดการใช้งานชั่วคราว และต้องการเปิดวินโดวส์เข้ามาใช้งานใหม่ ด้วยเหตุนี้ Microsoft จึงได้มีการเพิ่มความสามารถพิเศษ (Options) ในการปิด

    2. Shutdown – หมายถึงอะไร
    - การปิดวินโดวส์ และไม่ต้องการใช้งานในขณะนั้น


    ผู้อ่าน นางสาวกัญญาพัชร หมวดหรี่ ม.4/1 เลขที่31

    ตอบลบ
  41. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:26

    คอมพิวเตอร์ คือ
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

    การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 5 หน่วย คือ

    หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    ที่มา : คอมพิวเตอร์ คือ
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ รวมเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

    การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 5 หน่วย คือ

    หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
    หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
    หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
    หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
    หน่วยแสดงผล (Output Unit)
    ที่มา: http://www.punyisa.com/unit2/unit2_3-1.htm


    ถามเองตอบเอง

    1.คอมพิวเตอร์คืออะไร
    ตอบ คืออุปกรณือิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติและให้ผลลัพธ์ตามต้องการ

    2.การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอะไรบ้าง
    ตอบ 1หน่วยรับข้อมูล
    2หน่วยประมวลผลกลาง
    3.หน่วยความจำหลัก
    4.หน่วยความจำรอง
    5.หน่วยแสดงผล

    ชื่อผู้อ่านน.ส.พัสตราภรณ์ สิงห์อินทร์ม.4/1เลขที่29

    ตอบลบ
  42. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 02:34

    ส่วนประกอบของ Notebook



    Notebook ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

    ส่วนประกอบของ Notebook ก็คล้ายๆ กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วๆ ไป คือ มีซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ จอ ไดรฟ์ต่างๆ ลำโพง กล้อง แต่จะต่างกันที่ถูกเอามารวมอยู่ในตัวเดียวกัน และส่วนต่างตรงนี้ล่ะครับที่ทำให้ได้รับความนิยม และเมื่อประสิทธิภาพที่ดีเทียบเท่าและราคาไม่แตกต่าง ก็ไม่ต้องแปลกใจที่จะมาแทนที่ได้

    ที่มา:
    http://www.siamnotebook.net/index.php/notebook-buying-guide/35-notebook-buying-guide/49-notebook-features

    คำถาม
    1.Notebook ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
    ตอบ มีซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ จอ ไดรฟ์ต่างๆ ลำโพง กล้อง
    2.ส่วนประกอบของ Notebook เหมื่อนสารสนเทศชนิดใด
    ตอบ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วๆ

    นาย สุริยา ชูยัง เลขที่6 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  43. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 02:35

    ใช้เน็ต อีเมลที่ทำงานเป็นเหตุไล่ออกอันดับหนึ่งในอังกฤษ
    ลอนดอน ๕ ก.ย. - การกระทำผิดวินัยในการใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมลในที่ทำงานเช่นการดาวน์โหลดภาพโป๊กลายเป็นคดีที่ถูกคาดโทษไล่ออกมากกว่าการขโมยอุปกรณ์สำนักงานหรือปิดบังข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชา
    เคลีเกิลร่วมกับนิตยสารเพอร์ซะเนล รายงานผลการสำรวจกิจการธุรกิจ ๒๑๒ แห่งในอังกฤษระหว่างเดือนมิถุนายน พบว่า จำนวนโทษทางวินัยร้ายแรงจากการกระทำผิดนโยบายการใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมลของบริษัทนั้นมีมากกว่าการกระทำผิดแบบอื่นๆ เช่นไม่ซื่อสัตย์ต่อบริษัท ละเมิดกฎเกณฑ์ด้านสุขภาพและความปลอดภัย
    เคลีเกิลกล่าวว่า จำนวนความผิดทางวินัยร้ายแรงของบริษัทที่ร่วมในการสำรวนนั้นมีมากกว่า ๓๕๘ คดีที่เกี่ยวกับการใช้อีเมลและอินเทอร์เน็ต ส่วนความผิดเกี่ยวข้องกับความไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรหรือละเมิดกฎความปลอดภัยมีเพียง อีก ๓๒๖ คดีเท่านั้น
    รายงานดังกล่าวระบุว่า ผลการสำรวจเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่า ผู้บริหารองค์กรทางธุรกิจกำลังจัดการกับพนักงานที่ใช้อีเมลและอินเทอร์เน็ตผิดประเภทจนถึงอาจทำให้บริษัทเสียภาพพจน์หรือถูกฟ้องร้อง
    ทั้งนี้ร้อยละ ๒๐ ของบริษัทที่ร่วมการสำรวจระบุว่า เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวการใช้งานอีเมลและอินเทอร์เน็ตของลูกจ้างทุกวัน
    ความผิดทางวินัยการใช้อีเมลและอินเทอร์เน็ตบริษัทที่ติด ๓ อันดับแรกได้แก่ การใช้งานอินเทอร์เน็ตบริษัทเพื่อกิจส่วนบุคคล การส่งภาพโป๊ทางอีเมลบริษัท และการเข้าถึงเว็บโป๊
    การสำรวจพบว่า พนักงานประมาณร้อยละ ๑๐ ถูกไล่ออกเนื่องจากความผิดใช้อีเมลรับส่งภาพโป๊ มากกว่าความผิดการส่งข้อมูลทำลายบริษัท
    ที่มา : http://www.mcot.net
    คำถาม
    1. ที่ทำงานในอังกฤษได้กระทำผิดระเบียบวินัยเรื่องใดที่ได้ถูกไล่ออก
    ตอบ การโหลดหนังโป๊
    2. เคลีเกิลชาวอังกฤษได้กล่าวไว้ว่าอย่างไร
    ตอบ กล่าวว่า จำนวนความผิดทางวินัยร้ายแรงของบริษัทที่ร่วมในการสำรวนนั้นมีมากกว่า ๓๕๘ คดีที่เกี่ยวกับการใช้อีเมลและอินเทอร์เน็ต ส่วนความผิดเกี่ยวข้องกับความไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรหรือละเมิดกฎความปลอดภัยมีเพียง อีก ๓๒๖ คดีเท่านั้น


    นาย พีระยุทธ มากขาว เลขที่ 8 ม.4/1

    ตอบลบ
  44. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 03:25

    ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
    เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ในสำนักงานในบ้านนั้นเรียกว่า ไมโครคอมพิวเตอร์ มีแบบตั้งโต๊ะ(Desktop)
    แบบพกพา(Notebook) และ พาล์มทอป(Palmtop)
    DesktopNotebookPalmtop
    ไมโครคอมพิวเตอร์มีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้
    เคส (Case)
    เคส (Case) คือ ส่วนที่บรรจุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น แผงวงจนหลัก ฮาร์ดิสก์ หน่วยความจำ หน่วยประมวลผล เคสมีทั้ง
    แบบแนวนอนและแนวตั้ง
    มาเตอร์บอร์ด (Motherboard)
    หรือเรียกกันว่าเมนบอร์ด (Mainboard)
    แผงวงจรหลัก หรือเมนบอร์ด (Mainboard) ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น ฮาร์ดดิสก์ ฟล็อปปี้ดิสก์
    หน่วยความจำ หน่วยประมวลผลกลาง เป็นต้น
    ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
    ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลและโปรแกรม ภายในจะมีข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ บรรจุอยู่
    ซีดีรอม (CD - ROM)
    เครื่องขับคอมแพคดิสก์ หรือซีดีรอม (CD-ROM) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านข้อมูล บนแผ่นซีดี มีความสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก
    แรม (RAM)
    แรม (RAM) เป็นอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลและโปแกรมขณะที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล
    CPUหน่วยประมวลผลกลาง
    หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU (Central Processing Unit) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และทำกรประมวลผลข้อมูล
    ดิสก์ไดรฟ์ (Disk Drive)
    หน่วยขับดิสก์ หรือดิสก์ไดรฟ์ (Disk Drive) เป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านและเขียนข้อมูลลงบนแผ่นดิสก์ มีขนาด 3.5 นิ้ว
    แป้นพิมพ์ (Keyboard)
    แป้นพิมพ์ หรือ คีย์บอร์ด เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
    เมาส์ (Mouse)
    เมาส์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ชี้ส่วนต่าง ๆ บนจอภาพ และเรียกโปรแกรมโดยการใช้เมาส์คลิกที่สัญรูปหรือไอคอน (Icon) ที่เป็นตัวแทนของโปรแกรมที่ต้องการ
    จอภาพ (Monitor)
    จอภาพ หรือมอนิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่แสดงผลการประมวลในรูปของภาพ หรือข้อความ
    เครื่องพิมพ์ หรือ พริ้นเตอร์ (Printer)
    เป็นอุปกรณ์หน่วยแสดงผลโดยการพิมพ์ข้อมูลออกเป็นตัวอักษร ตัวเลขและรูปภาพ
    ลำโพง (Speaker)
    ลำโพง หรือสปีคเกอร์ เป็นอุปกรณ์หน่วยสดงผลในรูปของเสียง เช่น เสียงพูด เสียงดนตรี มีในคอมพิวเตอร์ที่เป็นระบบสื่อประสม
    หรือมัลติมีเดีย (Multiedia)

    ที่มา:http://www.thaigoodview.com/

    ถามเองตอบเอง

    1.เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ในสำนักงานในบ้านนั้นเรียกว่า
    ตอบ ไมโครคอมพิวเตอร์

    2.ไมโครคอมพิวเตอร์ มีแบบตั้งโต๊ะ(Desktop)แบบพกพา(Notebookและอีกอย่างคืออะไร
    ตอบ พาล์มทอป(Palmtop)

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวสุภาพร ดำทิพย์ ม.4/1 เลขที่26

    ตอบลบ
  45. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 06:29

    อินเทอร์เน็ต

    อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร(Protocol)เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กันเช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว

    ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
    เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอำนาจ(สหรัฐอเมริกา)กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ต้องการ ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทำงานได้
    ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุธ นิวเคลียร เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนถูกทำลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
    และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น
    เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet)ในปัจจุบัน

    ที่มา : http://school.obec.go.th/kudhuachang/les01.htm

    ถามเองตอบเอง
    1. อินเทอร์เน็ตคืออะไร
    ตอบ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน
    2.อินเทอร์เน็ตสามารถทำอะไรได้บ้าง
    ตอบ สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวขวัญนภา อาจเส็ม ม.4/1 เลขที่ 16

    ตอบลบ
  46. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 06:59

    อินเทอร์เน็ต(Internet)

    อินเทอร์เน็ต
    คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กันเช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว

    ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
    เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอำนาจ(สหรัฐอเมริกา)กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ต้องการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนถูกทำลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
    และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น
    เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)
    และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet)ในปัจจุบัน

    ทีมา : http://school.obec.go.th/kudhuachang
    /les01.htm

    ถามเองตอบเอง
    1. อินเทอร์เน็ตคืออะไร
    ตอบ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน
    2. อินเทอร์เน็ตสามารถทำอะไรได้บ้าง
    ตอบ สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวขวัญนภา อาจเส็ม ม.4/1 เลขที่16

    ตอบลบ
  47. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 07:06

    อินเทอร์เน็ต(Internet)

    อินเทอร์เน็ต
    คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กันเช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว

    ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
    เครือ ข่ายอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอำนาจ(สหรัฐ อเมริกา)กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ได้เกิดแนวคิดที่ต้องการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดย คอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนถูกทำลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถ ปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
    และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น
    เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)
    และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet)ในปัจจุบัน

    ทีมา : http://school.obec.go.th/kudhuachang
    /les01.htm

    ถามเองตอบเอง
    1. อินเทอร์เน็ตคืออะไร
    ตอบ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน
    2. อินเทอร์เน็ตสามารถทำอะไรได้บ้าง
    ตอบ สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวขวัญนภา อาจเส็ม ม.4/1 เลขที่16

    ตอบลบ
  48. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2554 เวลา 07:08

    อินเทอร์เน็ต(Internet)

    อินเทอร์เน็ต
    คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กันเช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว

    ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
    เครือ ข่ายอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอำนาจ(สหรัฐ อเมริกา)กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ได้เกิดแนวคิดที่ต้องการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดย คอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทำให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนถูกทำลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถ ปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
    และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น
    เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)
    และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต” (Internet)ในปัจจุบัน

    ทีมา : http://school.obec.go.th/kudhuachang
    /les01.htm

    ถามเองตอบเอง
    1. อินเทอร์เน็ตคืออะไร
    ตอบ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol)เดียวกัน
    2. อินเทอร์เน็ตสามารถทำอะไรได้บ้าง
    ตอบ สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวขวัญนภา อาจเส็ม ม.4/1 เลขที่16

    ตอบลบ
  49. เครือข่ายไร้สาย
    ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN) ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs) เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1971 บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ชื่อว่า “ALOHNET” ขณะนั้นลักษณะการส่งข้อมูลเป็นแบบ Bi-directional ส่งไป-กลับง่ายๆ ผ่านคลื่นวิทยุ สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะๆหนึ่ง ที่ชื่อว่า Oahu

    ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีความคล่องตัวมาก ซึ่งอาจจะนำมาใช้ทดแทนหรือเพิ่มต่อกับระบบเครือข่ายแลนใช้สายแบบดั้งเดิม โดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุในย่านวิทยุ RF และ คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ผ่านอากาศ, ทะลุกำแพง, เพดานหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โดยปราศจากความต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สายก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ LAN แบบใช้สาย

    ที่สำคัญก็คือ การที่มันไม่ต้องใช้สายทำให้การเคลื่อนย้ายการใช้งานทำได้โดยสะดวก ไม่เหมือนระบบ LAN แบบใช้สาย ที่ต้องใช้เวลาและการลงทุนในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์

    ที่มา:http://www.thaicyberpoint.com/ford/blog/id

    ถามเองตอบเอง
    1.ระบบเครือข่ายไร้สาย เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ. ใด
    ตอบ ค.ศ. 1971
    2.ระบบเครือข่ายไร้สายเกิดขึ้นครั้งแรกบนเกาะใด
    ตอบเกาะ ฮาวาย

    ชือผู้อ่าน น.ส.ณัฏฐิกานต์ มีศิลป์ เลขที่ 15 ม.4/1

    ตอบลบ
  50. สารสนเทศกับการตัดสินใจ
    ในองค์การต่าง ๆ นั้น สามารถแบ่งการทำงานได้เป็น 4 ระดับด้วยกันคือ ระดับวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว (strategic planning) ระดับวางแผนการบริหาร (tactical planning) ระดับวางแผนปฏิบัตการ (operation planning) และ ระดับผู้ปฏิบัติการ (clerical) โดยใน 3 ระดับแรกนั้นจะจัดอยู่ใน ระดับบริหาร (Management) และระดับสุดท้ายจัดอยู่ใน ระดับปฏฺบัติการ (Operation)

    ระบบสารสนเทศจะทำการเก็บรวมรวบข้อมูลจากระดับปฏิบัติการ และทำการประมวลผลเพื่อให้สารสนเทศกับบุคลากรในระดับต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละระดับนั้นจะใช้ลักษณะและปริมาณของสารสนเทศที่แตกต่างไป ระบบสารสนเทศในองค์สามารถแทนได้ด้วยภาพปิรามิด ตามรูป



    แสดงโมเดลโครงสร้างองค์กร



    จากภาพจะเห็นได้ว่าโครงสร้างระบบสารสนเทศแบบปิรามิด มีฐานที่กว้างและบีบแคบขึ้นไปบรรจบในยอดบนสุด ซึ่งหมายความว่าสารสนเทศที่ใช้งานจะมีมากในระดับล่างและลดหลั่นน้อยลงไปตามลำดับจนถึงยอดบนสุด เช่นเดียวกับจำนวนบุคลากรในระดับนั้น ๆ

    บุคลากรในแต่ละระดับจะเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศดังนี้

    ระดับปฏิบัติการ

    บุคลากรในระดับนี้เกี่ยวข้องอยู่กับงานที่ทำซ้ำ ๆ กัน และจะเน้นไปที่การจัดการรายการประจำวัน นั้นคือบุคลากรในระดับนี้เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศในฐานะผู้จัดหาข้อมูลเข้าสู่ระบบ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลการสั่งซื้อของลูกค้าเข้าสู่คอมพิวเตอร์ในระบบสารสนเทศเพื่อการขาย หรือตัวแทนการจองตั๋วและขายตั๋วในระบบจองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น


    ระดับวางแผนปฏิบัติการ

    บุคคลในระดับนี้ จะเป็นผู้บริหารขั้นต้นที่ทำหน้าที่ควบคุมการปฏิงานประจำวัน และการวางแผนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาสั้น ๆ เช่น แผนงานประจำวัน ประจำสัปดาห์ หรือประจำไตรมาส ข้อมูลที่ผู้บริหารระดับนี้ต้องการส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับผลการปฏิบัติในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ผู้จัดการแนกจายตรงอาจต้องการรายงานสรุปผลการขายประจำไตรมาสของพนักงานขาย เพื่อประเมินผลของพนักงานขายแต่ละคน เป็นต้น


    ระดับวางแผนการบริหาร


    บุคลากรในระดับนี้ จะเป็นผู้บริหารระดับกลาง ซึ่งทำหนาที่วางแผนให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จตามแผนงานระยะยาวตามที่กำหนดโดยผู้บริหารระดับสูง มักจะเป็นสารสนเทศตามคาบเวลาซึ่งมีระยะเวลานานกว่าผู้บริหารขั้นต้น และจะเป็นสารสนเทศที่รวบรวมข้อมูลทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร เช่น ของคู่แข่งหรือของตลาดโดยรวม เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับนี้ยังต้องการระบบที่ให้รายงานการวิเคราะห์แบบ ถ้า-แล้ว (What - IF) นั่นคือสามารถทดสอบได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว ตัวเลขหรือสารสนเทศต่างๆ จะเปลี่ยนเป็นเช่นไร เพื่อให้จำลองสถานการณ์ต่างๆที่ต้องการได้ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการฝ่ายขายอาจต้องการทาบผลการขายประจำปีของบริษัทเทียบคู่แข่งต่าง ๆ รวมทั้งอาจต้องการทดสอบว่าถ้าเพิ่มหรือลดลงโฆษณาในสื่อต่าง ๆ จะมีผลกระทบต่อยอดขายอย่างไรบ้าง


    ระดับวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว


    ผู้บริหารระดับนี้จะเป็นระดับสูงสุด ซึ่งเน้นในเรื่องเป้าประสงค์ขององค์กร ระบบสารสนเทศที่ต้องการจะเน้นที่รายงานสรุป รายงานแบบ What-if และการวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ (trand analysis) ตัวอย่างเช่น ประธานบริษัทอาจต้องการรายงานที่แสดงแนวโน้มการขายในอีก 4 ปีข้างหน้าของผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดของบริษัท เพื่อดูแนวโน้มในการเติบโตของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ว่า ผลิตภัณฑ์ใดจะมีแนวโน้มที่มีกว่า หรือผลิตภัณฑ์ใดที่อาจสร้างปัญหาให้บริษัทได้ เป็นต้น
    ที่มา http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/tech.htm

    ถามเองตอบเอง
    1.สารสนเทศหมายถึงอะไร
    ตอบ ข่าวสารที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (raw data) มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
    2. ในองค์การต่าง ๆ นั้น สามารถแบ่งการทำงานได้เป็นกี่ระดับ
    ตอบ 4 ระดับ
    นาย ณัฐดนัย รอดเพ็ง ม.4/1 เลขที่ 3

    ตอบลบ
  51. ข้อมูลสารสนเทศ
    ข้อมูล (Data)หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผล ซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น
    สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ยหรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไป ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหตือตอบ ปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมายสารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    คุณสมบัติของข้อมูลที่ดี
    1. ความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ผู้ใช้ไม่กล้าอ้างอิงหรือนำเอาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นเหตุให้การตัดสินใจของผู้บริหารขาดความแม่นยำ และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างข้อมูล ที่ออก แบบต้องคำนึงถึงกรรมวิธีการดำเนินงานเพื่อให้ได้ความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด โดยปกติความผิดพลาดของสารสนเทศ ส่วนใหญ่มาจากข้อมูลที่ไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคนหรือเครื่องจักร การออกแบบระบบจึงต้องคำนึงถึงในเรื่องนี้
    2. ความรวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้ มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ตีความหมายสารสนเทศได้ทันต่อเหตุการณ์หรือความต้องการมีการออกแบบระบบการเรียนค้น และรายงานตามผู้ใช้
    3. ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฏิบัติด้ว ในการดำเนินการจัดทำสารสนเทศต้องสำรวจและสอบถามความต้องการใช้ข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ในระดับหนึ่งที่เหมาะสม
    4. ความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากจึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้ มีการใช้รกัสหรือย่นย่อข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อที่จะจัดเก็บเข้าไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
    5. ความสอดคล้อง ความต้องการเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการ ของหน่วยงานและองค์การดูสภาพการใช้ข้อมูลความลึกหรือความกว้างของขอบเขตของข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ

    ที่มา:http://jantima-ssp.exteen.com/20080212/entry-7

    ถามเองตอบเอง
    1.ข้อมูลและสารสนเทศ หมายถึงอะไร
    ตอบ ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ
    สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
    2.คุณสมบัติของข้อมูลที่ดีมีอะไรบ้าง
    ตอบ 1. ความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก
    2. ความรวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้
    3. ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฏิบัติด้วย
    4. ความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมาก จึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้
    5. ความสอดคล้อง ความต้องการเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการ ของหน่วยงานและองค์การ


    ชื่อผู้อ่าน นางสาวนุชนาฎ ขวัญนิมิตร
    4 มิถุนายน 2554

    ตอบลบ
  52. คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ


    คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติที่สำคัญ 5 ประการดังนี้

    1 การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสามารถประมวลผลได้ และเมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผลเรียบร้อยแล้วข้อมูลที่เป็นสัญญาณไฟฟ้าจะถูกแปลงกลับให้เป็นรูปแบบที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้

    2.การทำงานด้วยความเร็วสูง (Speed)เนื่องจากการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการดำเนินงานต่าง ๆ จึงสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว (มากกว่าพันล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที)

    3.ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)
    คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    4.การเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก (Storage)คอมพิวเตอร์ทีหน่วยความจำที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่บันทึกไป ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจะมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหมื่นล้านตัวอักษร

    5.การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล (Communication)คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ และสามารถทำงานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ระบบเดี่ยว เช่น การนำคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น


    ที่มา : http://portal.in.th/eleccom43/pages/004/


    ถามเองตอบเอง

    1. การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆเป็นการทำๆงานแบบใด

    ตอบ การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)

    2. ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)มีการทำงานอย่างไร

    ตอบ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    ผู้อ่าน น.ส. วรรณชนก คงสิน เลขที่ 34 ม.4/1

    ตอบลบ
  53. คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ


    คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติที่สำคัญ 5 ประการดังนี้

    1 การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสามารถประมวลผลได้ และเมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผลเรียบร้อยแล้วข้อมูลที่เป็นสัญญาณไฟฟ้าจะถูกแปลงกลับให้เป็นรูปแบบที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้

    2.การทำงานด้วยความเร็วสูง (Speed)เนื่องจากการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการดำเนินงานต่าง ๆ จึงสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว (มากกว่าพันล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที)

    3.ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)
    คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    4.การเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก (Storage)คอมพิวเตอร์ทีหน่วยความจำที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่บันทึกไป ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจะมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหมื่นล้านตัวอักษร

    5.การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล (Communication)คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ และสามารถทำงานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ระบบเดี่ยว เช่น การนำคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น


    ที่มา : http://portal.in.th/eleccom43/pages/004/


    ถามเองตอบเอง

    1. การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆเป็นการทำๆงานแบบใด

    ตอบ การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)

    2. ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)มีการทำงานอย่างไร

    ตอบ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    ผู้อ่าน น.ส. วรรณชนก คงสิน เลขที่ 34 ม.4/1

    ตอบลบ
  54. ข้อมูลสารสนเทศ
    ข้อมูล (Data)หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผล ซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น
    สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ยหรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไป ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหตือตอบ ปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมายสารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    คุณสมบัติของข้อมูลที่ดี
    1. ความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ผู้ใช้ไม่กล้าอ้างอิงหรือนำเอาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นเหตุให้การตัดสินใจของผู้บริหารขาดความแม่นยำ และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างข้อมูล ที่ออก แบบต้องคำนึงถึงกรรมวิธีการดำเนินงานเพื่อให้ได้ความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด โดยปกติความผิดพลาดของสารสนเทศ ส่วนใหญ่มาจากข้อมูลที่ไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคนหรือเครื่องจักร การออกแบบระบบจึงต้องคำนึงถึงในเรื่องนี้
    2. ความรวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้ มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ตีความหมายสารสนเทศได้ทันต่อเหตุการณ์หรือความต้องการมีการออกแบบระบบการเรียนค้น และรายงานตามผู้ใช้
    3. ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฏิบัติด้ว ในการดำเนินการจัดทำสารสนเทศต้องสำรวจและสอบถามความต้องการใช้ข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ในระดับหนึ่งที่เหมาะสม
    4. ความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากจึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้ มีการใช้รกัสหรือย่นย่อข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อที่จะจัดเก็บเข้าไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
    5. ความสอดคล้อง ความต้องการเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการ ของหน่วยงานและองค์การดูสภาพการใช้ข้อมูลความลึกหรือความกว้างของขอบเขตของข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ

    ที่มา:http://jantima-ssp.exteen.com/20080212/entry-7

    ถามเองตอบเอง
    1.ข้อมูลและสารสนเทศ หมายถึงอะไร
    ตอบ ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ
    สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
    2.คุณสมบัติของข้อมูลที่ดีมีอะไรบ้าง
    ตอบ 1. ความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก
    2. ความรวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้
    3. ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฏิบัติด้วย
    4. ความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมาก จึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้
    5. ความสอดคล้อง ความต้องการเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการ ของหน่วยงานและองค์การ


    ชื่อผู้อ่าน นางสาวนุชนาฎ ขวัญนิมิตร
    เลขที่32 ม.4/1
    4 มิถุนายน 2554

    ตอบลบ
  55. คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ


    คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติที่สำคัญ 5 ประการดังนี้

    1 การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสามารถประมวลผลได้ และเมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผลเรียบร้อยแล้วข้อมูลที่เป็นสัญญาณไฟฟ้าจะถูกแปลงกลับให้เป็นรูปแบบที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้

    2.การทำงานด้วยความเร็วสูง (Speed)เนื่องจากการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการดำเนินงานต่าง ๆ จึงสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว (มากกว่าพันล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที)

    3.ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)
    คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    4.การเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก (Storage)คอมพิวเตอร์ทีหน่วยความจำที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่บันทึกไป ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจะมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหมื่นล้านตัวอักษร

    5.การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล (Communication)คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ และสามารถทำงานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ระบบเดี่ยว เช่น การนำคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น


    ที่มา : http://portal.in.th/eleccom43/pages/004/


    ถามเองตอบเอง

    1. การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆเป็นการทำๆงานแบบใด

    ตอบ การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)

    2. ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)มีการทำงานอย่างไร

    ตอบ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    ผู้อ่าน น.ส. วรรณชนก คงสิน เลขที่ 34 ม.4/1

    ตอบลบ
  56. คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ


    คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติที่สำคัญ 5 ประการดังนี้

    1 การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสามารถประมวลผลได้ และเมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผลเรียบร้อยแล้วข้อมูลที่เป็นสัญญาณไฟฟ้าจะถูกแปลงกลับให้เป็นรูปแบบที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้

    2.การทำงานด้วยความเร็วสูง (Speed)เนื่องจากการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการดำเนินงานต่าง ๆ จึงสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว (มากกว่าพันล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที)

    3.ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)
    คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    4.การเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก (Storage)คอมพิวเตอร์ทีหน่วยความจำที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่บันทึกไป ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจะมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหมื่นล้านตัวอักษร

    5.การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล (Communication)คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ และสามารถทำงานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ระบบเดี่ยว เช่น การนำคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น


    ที่มา : http://portal.in.th/eleccom43/pages/004/


    ถามเองตอบเอง

    1. การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้นพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆเป็นการทำๆงานแบบใด

    ตอบ การทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic machine)

    2. ความถูกต้องแม่นยำเชื่อถือได้ (Accuracy and Reliability)มีการทำงานอย่างไร

    ตอบ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามที่คำสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือคำสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้อนข้อมูลและชุดคำสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้

    ผู้อ่าน น.ส. วรรณชนก คงสิน เลขที่ 34 ม.4/1

    ตอบลบ
  57. พลาสมา ดิสเพลย์
    พลาสมา ดิสเพลย์ (Plasma Display) คือ ช่องว่างนี้จะถูกแบ่งออกเป็นเซลล์แสงกว้าง จอภาพที่ประกอบขึ้นจากแผ่นแก้วสองชุดวางชิดกัน 100-200 ไมครอนมีชั้นผนัง (Rib) คอยกั้นไว้ โดยใช้ขั้วไฟฟ้าในแนวกระจกคอยควบคุมตำแหน่งของเซลล์เหล่านั้น แต่ละเซลล์จะบรรจุก๊าซที่ผสมระหว่างก๊าซซีนอนและก๊าซเฉื่อยอื่นๆ กลไกการทำงานของ Plasma Display จะมีการเรืองแสงขึ้นเอง เหมือนการทำงานของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ กล่าวคือ ก๊าซในเซลล์เหล่านี้เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงดันไฟฟ้าจะเกิดการไอออนไนซ์ขึ้นทำให้ก๊าซแตกประจุและปล่อยแสงอุลตราไวโอเล็ตออกมา สารเรื่องแสงจะดูดซับอุลตราไวโอเลตและสร้างสีที่มองเห็นได้ด้วยตา ทำให้เรามองเห็นเป็นภาพได้
    หัวใจของเทคโนโลยี Plasma Display จึงอยู่ที่พลาสมาทุกหน่วยที่มาประกอบ เซลล์แสงภายในแผ่นแก้วของจอ Plasma Display จะแยกอิสระแต่ทำงานร่วมกัน โดยมี Pure Vision Cell Size ที่อยู่ 0.286 X 0.808 มม.
    ในจอ Plasma Display แบบสี ภาพจะถูกสร้างขึ้นจากจุดหลายๆ จุด แต่ละจุดเรียกว่า พิกเซล แต่ละพิกเซลจะประกอบขึ้นจากเซลล์สี 3 เซลล์คือ แดง เขียว น้ำเงิน ดังนั้นความแตกต่างพื้นฐานประการหนึ่งระหว่างจอ Plasma Display กับ CRT แบบโทรทัศน์ธรรมดาทั่วไป จึงอยู่ตรงที่ Plasma Display (และ LCD) จะดูค่าความละเอียดที่จำนวนพิกเซล ขณะที่ CRT จะดูที่ความเร็วในการสแกนภาพ
    ยังมีความแตกต่างอีกหลายประการที่ทำให้จอ Plasma Display โดดเด่นกว่าจอภาพ CRT เช่น ขนาดที่สามารถผลิตได้ใหญ่กว่า ความละเอียดของคุณภาพสูงกว่า คุณภาพในแง่ต่างๆ ของภาพดีกว่า รวมไปถึงนำหนักที่เบากว่า และปลอดจากการรบกวนของคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น
    ปัจจุบัน จอภาพ พลาสมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถทำได้ขนาดใหญ่ที่สุด 103 นิ้ว ส่งสัญญาณภาพด้วยระบบ Full High Definition แสดงภาพได้ 1080p ผลิตโดยบริษัท มัตสุซิตะ อิเล็คทริค อินดัสเตรียล จำกัด (Panasonic) ในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นโรงงานที่ผลิตจอภาพพลาสมา ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

    ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki

    ถามเองตอบเอง
    1. พลาสมา ดิสเพลย์ คืออะไร
    ตอบ จอภาพที่ประกอบขึ้นจากแผ่นแก้วสองชุดวางชิดกัน
    2.กลไกการทำงานของ Plasma Display จะเหมือนกับการทำงานของอะไร
    ตอบ หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์

    ผู้อ่าน นางสาวมัณฑิรา วงศ์วิวัฒน์
    เลขที่24 ม.4/1

    ตอบลบ
  58. มารู้จักกับเครื่องพิมพ์
    เครื่องพิมพ์ (Computer printer) คืออุปกรณ์ที่จะแปลการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ออกมาในรูปแบบกระดาษ ทั้งรูปภาพและอักษร เครื่องพิมพ์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
    1.เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ การทำงานของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้คือจะใช้การสร้างจุดลงบนกระดาษ ซึ่งหัวพิมพ์จะมีลักษณะเป็นหัวเข็ม เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งตามรูปประกอบนั้นๆ จะยื่นออกมามากกว่าหัวอื่นๆ และกระแทกกับผ้าหมึกลงกระดาษที่ใช้พิมพ์ จะทำให้เกิดจุดมากมายประกอบกันเป็นรูปเกิดขึ้นมา เครื่องพิมพ์ประเภทนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะมีราคาถูกและคุณภาพเหมาะสมกับราคา แต่ข้อเสียคือเวลาสั่งพิมพ์จะเกิดเสียดังพอสมควร
    เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ ในปัจจุบันส่วนใหญ่ นิยมใช้กันมี 3 แบบ
    1.เครื่องพิมพ์แบบ 9 เข็ม
    2.เครื่องพิมพ์แบบ 24 เข็ม
    3.เครื่องพิมพ์แบบ 32 เข็ม

    2.เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก หรือ เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต (Inkjet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึกออกมาเป็นหยดเล็กๆ ลงบนกระดาษ เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ เครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกออกตามแต่ละจุดในตำแหน่งที่เครื่องประมวลผลไว้อย่างแม่นยำ ตามความต้องการของเรา ซึ่งเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะมีคุณภาพดีกว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ โดยรูปที่มีความซับซ้อนมากๆเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ชัดเจนและคมชัดกว่าแบบดอตแมทริกซ์

    3.เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก และราคาเครื่องพิมพ์ก็มีราคาสูงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะทำงานได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก และคุณภาพของผลลัพธ์ทั้งด้านความคมชัดและรายละเอียดทำออกมาได้ดีกว่าแบบพ่นหมึกมาก

    4.พล็อตเตอร์ (Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์แบบที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลลงบนกระดาษ ซึ่งเครื่องพิมพ์ประเภทนี้เหมาะกับงานเขียนแบบของวิศวกรและสถาปนิก และเครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาแพงที่สุดในเครื่องพิมพ์ประเภทต่างๆ

    ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki

    ถามเองตอบเอง
    1.เครื่องพิมพ์แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
    ตอบ 4 ประเภท 1.เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ 2.เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
    3.เครื่องพิมพ์เลเซอร์ 4.พล็อตเตอร์
    2.เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ในปัจจุบันส่วนใหญ่นิยมใช้กันมีกี่แบบ
    ตอบ 3 แบบ 1.เครื่องพิมพ์แบบ 9 เข็ม 2.เครื่องพิมพ์แบบ 24 เข็ม
    3.เครื่องพิมพ์แบบ 32 เข็ม

    ชื่อผู้อ่าน นางสาวมัณฑิรา วงศ์วิวัฒน์ ม.4/1 เลขที่ 24

    ตอบลบ
  59. เครื่องพิมพ์เลเซอร์

    เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก และราคาเครื่องพิมพ์ก็มีราคาสูงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะทำงานได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก และคุณภาพของผลลัพธ์ทั้งด้านความคมชัดและรายละเอียดทำออกมาได้ดีกว่าแบบพ่นหมึกมาก

    ที่มา : http://th.wikipedia.org/

    ถามเองตอบเอง
    1.เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับอะไร
    ตอบ เครื่องถ่ายเอกสาร
    2.เครื่องพิมพ์เลเซอร์จะทำงานได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์แบบใด
    ตอบ เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก

    ผู้อ่าน ด.ญ. เจนจิรา ตาแหลม เลขที่14 ชั้นม.4/1

    ตอบลบ
  60. แอปเปิลแถลงการณ์ยืนยันว่าสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) จะพักการลางาน 1 วันเพื่อออกปฏิบัติภารกิจซีอีโอแอปเปิล ด้วยการขึ้นเวทีเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ของแอปเปิลในวันที่ 6 มิถุนายนนี้

    รายงานระบุว่าสินค้าที่จ็อบส์จะเปิดตัวในงานประชุมซึ่งแอปเปิลมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน 54 คือระบบปฏิบัติการแมคอินทอชใหม่นามว่า Lion ถือเป็นพัฒนาการรุ่นที่ 8 ของระบบปฏิบัติการฝีมือแอปเปิล โดยการยืนยันว่าจ็อบส์จะร่วมงานเปิดตัว Lion สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน จนทำให้มูลค่าหุ้นแอปเปิลพุ่งสูงทันที 3%

    จ็อบส์ในวัย 56 ปีนั้นลางานจากแอปเปิลเพื่อรักษาสุขภาพตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นการลางานยาวครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งจ็อบส์เริ่มเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งตับอ่อน การขึ้นเวทีระหว่างที่ลางานทำให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์เชื่อว่านี่คือสัญญาณบอกว่าแอปเปิลกำลังจะมีการเปิดตัวสินค้าหลักชิ้นใหม่สู่ตลาด ทำให้มูลค่าหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้นทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่

    อย่างไรก็ตาม ไมเคิล การ์เทนเบิร์ก (Michael Gartenberg) นักวิเคราะห์จาก Gartner เชื่อว่างานนี้จะไม่ใช่เวทีเปิดตัว iPhone 5 อย่างที่หลายคนตั้งความหวัง เพราะงานวันที่ 6 มิถุนายนนี้ถูกวางจุดยืนเป็นงานประชุมนักพัฒนา เนื้อหาในงานจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์เท่านั้น มากกว่าจะเป็นการเปิดผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนใหม่อย่าง iPhone 5 หรือคอมพิวเตอร์พกพา Macbook รุ่นใหม่

    จุดนี้มีการวิเคราห์กันว่า แอปเปิลอาจเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ตระกูลไอโอเอส (iOS) สำหรับอุปกรณ์พกพา ซึ่งยังไม่มีการยืนยันที่แน่นอนในขณะนี้

    นอกจาก Lion แอปเปิลยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวบริการ "iCloud" บริการสตรีมเพลงจากระบบเก็บไฟล์บนคลาวด์คอมพิวติงเพื่อมาเล่นบนอุปกรณ์พกพา จุดนี้ยังไม่มีรายงานใดๆที่ให้รายละเอียดว่าแอปเปิลจะสร้างสรรค์คุณสมบัติใดมาแข่งขันกับกูเกิลและอเมซอนซึ่งเปิดบริการไปแล้วก่อนหน้านี้

    ข่าวคราวล่าสุดเกี่ยวกับแอปเปิลคือการถูกซัมซุงยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศาล ขอให้ศาลออกคำสั่งให้ซัมซุงได้มีโอกาสเห็นและตรวจสอบโครงสร้างตัวอย่างสินค้าของแอปเปิลอย่าง iPhone 5 และ iPad 3 ก่อนการเปิดตัวจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ"ใจตรงกัน"และพัฒนาเทคโนโลยีออกมาสไตล์เดียวกันจนทำให้แอปเปิลเข้าใจว่าซัมซุงลอกเลียนแบบมา

    ซัมซุงอ้างว่าการที่ศาลสั่งให้ซัมซุงส่งเครื่อง Galaxy S II, Galaxy Tab 10.1 , 8.9 และ Infuse 4G ให้แอปเปิลตรวจสอบฝ่ายเดียวนั้นทำให้ซัมซุงเสียเปรียบ เพื่อความยุติธรรม ศาลควรให้แอปเปิลส่งสินค้าให้ซัมซุงตรวจสอบด้วย โดยหากศาลอนุมัติ ซัมซุงจะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากภายนอกเข้ามาทำการตรวจสอบข้อมูลสินค้าของแอปเปิล แทนการใช้เจ้าหน้าที่ของบริษัทเองเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งยังไม่มีรายงานการค้านกลับหรือยอมรับจากแอปเปิลในขณะนี้

    ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000067067

    ถามเองตอบเอง
    1.จ็อบส์จะเปิดตัวอะไรในงานประชุมซึ่งแอปเปิลมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน 54
    ตอบ ระบบปฏิบัติการแมคอินทอชใหม่นามว่า Lion
    2.นอกจาก Lion แอปเปิลยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวบริการ อะไร
    ตอบ เปิดตัวบริการ "iCloud"

    ผู้อ่าน นางสาวแพรพิไล เอียดชะตา
    เลขที่ 1 ม.4/1

    ตอบลบ
  61. เครือข่ายไร้สาย

    ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN) ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs) เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1971 บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ชื่อว่า “ALOHNET” ขณะนั้นลักษณะการส่งข้อมูลเป็นแบบ Bi-directional ส่งไป-กลับง่ายๆ ผ่านคลื่นวิทยุ สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะๆหนึ่ง ที่ชื่อว่า Oahu

    ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีความคล่องตัวมาก ซึ่งอาจจะนำมาใช้ทดแทนหรือเพิ่มต่อกับระบบเครือข่ายแลนใช้สายแบบดั้งเดิม โดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุในย่านวิทยุ RF และ คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ผ่านอากาศ, ทะลุกำแพง, เพดานหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โดยปราศจากความต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สายก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ LAN แบบใช้สาย

    ที่สำคัญก็คือ การที่มันไม่ต้องใช้สายทำให้การเคลื่อนย้ายการใช้งานทำได้โดยสะดวก ไม่เหมือนระบบ LAN แบบใช้สาย ที่ต้องใช้เวลาและการลงทุนในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์

    ปัจจุบันนี้ โลกของเราเป็นยุคแห่งการติดต่อสื่อสาร เทคโนโลยีต่างๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน ความต้องการข้อมูลและการบริการต่างๆ มีความจำเป็นสำหรับนักธุรกิจ เทคโนโลยีที่สนองต่อความต้องการเหล่านั้น มีมากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค เครื่องปาร์ม ได้ถูกนำมาใช้เป็นอย่างมากและ ผู้ที่น่าจะได้ประโยชน์จากการใช้ ระบบเครือข่ายไร้สาย มีมากมายไม่ว่าจะเป็น

    - หมอหรือพยาบาลในโรงพยาบาล เพราะสามารถดึงข้อมูลมารักษาผู้ป่วยได้จาก เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค ที่เชื่อมต่อกับ ระบบเครือข่ายไร้สายได้ทันที


    ถามเองตอบเอง
    1.ระบบเครือข่ายไร้สาย เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ.ใด
    ตอบ เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1971
    2.ระบบเครือข่ายไร้สาย เกิดขึ้นครั้งแรก บนเกาใด
    ตอบ บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ชื่อว่า “ALOHNET”

    ผู้อ่าน: น.ส.ณัฏฐิกานต์ มีศิลป์ เลขที่ 15 ชั้น ม. 4/1

    ตอบลบ
  62. ถามเองตอบเอง

    1.ขั้นตอนการทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ทั้ง4ขั้นตอนแรกว่าอะไร
    ตอบ วงจรการทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์(lposcycle)

    2.ขั้นตอนพื้นฐานของคอมพิวเตอร์4ขั้นตอนมีอะไรบ้าง
    ตอบ 1.รับข้อมูล 2.ประมวลผลข้อมูล 3.จัดเก็บข้อมูล 4.แสดงผลข้อมูล

    ผู้ตอบคำถาม
    1.นางสาวลลิตา หมื่อนอะเส็ม ม.4/1 เลขที่25
    2.นางสาวณัฐวรา เกียงเอีย ม.4/1 เลขที่42
    3.นางสาวสุภาพร ดำทิพย์ ม.4/1 เลขที่26

    ตอบลบ