ความเรียงขั้นสูง (Extended – Essay)
ความเรียงขั้นสูง คือ ลักษณะการเขียนรูปแบบหนึ่งที่มีระบบ มีแบบแผนและมีการศึกษาค้นคว้ามาเป็น
อย่างดีในหัวข้อที่ผู้เขียนสนใจ
การเขียนความเรียงจะต่างกับเรียงความตรงที่ เรียงความจะมีเพียงเนื้อหาของเรื่องที่จะเขียนโดยแบ่งเป็น
ย่อหน้าหลายย่อหน้า ย่อหน้านำ ย่อหน้าเนื้อหาและย่อหน้าสรุปโดยใส่ความคิดของผู้เขียนได้อย่างไม่จำกัด
การเขียนความเรียงจะต่างกับโครงงานตรงที่โครงงานมีการแบ่งเนื้อหาย่อย(หมวดหมู่จากเรื่องที่เขียน)
โดยแบ่งเป็นบท มีทั้งหมด 5 บท ความเรียงขั้นสูงคือการนำรูปแบบความเรียงมารวมกับโครงงาน ประกอบไปด้วย
ชื่อเรื่อง (Title Page) บทคัดย่อ (Abstract) สารบัญ (Content Page) คำนำ (Introduction) เนื้อเรื่อง (Body/Method/Result) บทสรุป (Conclusion) การแสดงภาพประกอบ(Illustration) ภาคผนวก (Appendix)เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม (ReFerences) โดยเนื้อหาจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ย่อย แต่ไม่แบ่งเป็น
บท ๆ ใช้ภาษาวิชาการ ร้อยเรียงอย่างเป็นระบบและมีการอ้างอิงอย่างถูกต้องโดยการค้นคว้าจากหนังสือหรือ
เว็ปไซต์หลาย ๆ ที่
การ เขียนความเรียงขั้นสูงไม่ใช่การเขียนรายงานและไม่ใช่การเขียนบทความ ข้อสำคัญคือ การเลือกเรื่องก่อน พอได้เรื่องก็มาคัดเลือกหัวข้อเรื่อง ปัญหาของเรื่องที่ผู้เขียนสนใจ จับประเด็นให้ได้แล้วก็ค้นคว้าหาข้อมูลและเขียนตามประเด็นองค์ประกอบของการเขียนความเรียงขั้นสูง
1. องค์ประกอบส่วนหน้า ประกอบด้วย
- ปกนอก
- ปกใน
1. องค์ประกอบส่วนหน้า ประกอบด้วย
- ปกนอก
- ปกใน
- กิตติกรรมประกาศ
- บทคัดย่อ
- สารบัญ (หากมีภาพต้องระบุสารบัญภาพ ถ้ามีตารางข้อมูลอื่นๆ ต้องมีสารบัญต
2. องค์ประกอบส่วนเนื้อเรื่อง ประกอบด้วย
-คำนำ
-เนื้อเรื่อง
- บทสรุป
-คำนำ
-เนื้อเรื่อง
- บทสรุป
3. องค์ประกอบส่วนท้าย ประกอบด้วย
- บรรณานุกรม
- ภาคผนวก (ประกอบด้วยภาพประกอบต่าง ๆ ตาราง แผนภูมิและอื่น ๆ )
- ประวัติผู้จัดทำ
- บรรณานุกรม
- ภาคผนวก (ประกอบด้วยภาพประกอบต่าง ๆ ตาราง แผนภูมิและอื่น ๆ )
- ประวัติผู้จัดทำ
ขั้นตอนการเขียนความเรียงขั้นสูง มี ดังนี้
1. การเขียนโครงร่าง ประกอบด้วย ชื่อโครงการ สาระการเรียนรู้/วิชา ชื่อผู้ค้นคว้าหรือ
เจ้าของผลงานความสำคัญของหัวข้อเรื่องที่ค้นคว้า วัตถุประสงค์ของการค้นคว้า ประโยชน์ที่ได้รับจาก
การค้นคว้า การรวบรวมสรุปข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าพร้อมเอกสารอ้างอิง วิธีหรือแบบแผนการค้นคว้า การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล
2. การเขียนชื่อเรื่อง ชื่อเรื่องจะต้องสะท้อนหรือชี้วัดให้เห็นภาพของผลงาน ซึ่งจะต้องเรียบเรียงเป็นรูปคำถามหรือประเด็นค้นคว้า ตัวอย่าง เช่น
1. หัวข้อเรื่อง : การออกแบบโทรศัพท์มือถือสำหรับวัยรุ่นไทย
หัวข้อวิจัย : องค์ประกอบสำคัญในการออกแบบโทรศัพท์มือถือสำหรับวัยรุ่นไทย
2. หัวข้อเรื่อง : ความรุนแรงในครอบครัวไทย
หัวข้อวิจัย : ศึกษา/วิเคราะห์สาเหตุของความรุนแรงในครอบครัวไทยและทางแก้ปัญหา
3. หัวข้อเรื่อง : การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด
หัวข้อวิจัย : ศึกษาผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อน
3. การเขียนคำนำ ประกอบด้วย
- การให้เหตุผลในการเลือกหัวข้อเรื่อง ความสำคัญและคุณค่าที่ได้จากการศึกษา
- บอกความเป็นมาและความสำคัญของหัวเรื่อง
- ระบุหัวข้อค้นคว้า (Reserch Question) ให้ชัดเจน
- ระบุผลการค้นคว้า
- ระบุประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการค้นคว้าของนักเรียนที่ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้แต่ควร
ค่าสำหรับการค้นคว้าเพิ่มเติมในครั้งต่อไป
4. เนื้อเรื่อง (Body/Method/Result) เป็น ส่วนสำคัญของผลงานความเรียง ซึ่งผู้เขียนจะต้องลำดับเนื้อหาตามรูปแบบโครงสร้างที่ถูกต้อง โดยจัดลำดับเนื้อหาเป็นหัวข้อใหญ่และหัวข้อย่อยตามธรรมชาติเนื้อหา การลำดับความคิดหลักและความคิดรองเป็นต้น
5. บทสรุป (Conclusion) บทสรุปจะต้องมีลักษณะของการสรุป การนำเสนอความคิดรวบยอดที่เกี่ยวเนื่องกับหัวข้อเรื่อง การอ้างอิงหลักฐานประกอบความคิด จบด้วยการเสนอและชี้นำประเด็นที่ค้นพบรวม ทั้งหัวข้อเรื่อง ประเด็น/เรื่อง ที่ยังไม่ได้ค้นคว้าศึกษาในผลงานชิ้นนี้ แต่ควรค่าแก่การค้นคว้าเป็นผลงานเรื่องต่อไป
3
6. การเขียนบทคัดย่อ (Abstract) การเขียนบทคัดย่อสำหรับผลงานการเขียนความเรียงขั้นสูงต้องไม่เกิน 300 คำและในการเขียนบทคัดย่อ นักเรียนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจว่าไม่ใช่การเขียนคำนำ (Introduction) บทคัดย่อจะต้องมีสาระที่สะท้อนให้เห็นเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง
7. หน้าสารบัญ (Content Page) การเขียนหน้าสารบัญนักเรียนจะต้องลำดับ หัวข้อเรื่อง เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกและมีเลขหน้ากำกับทุกหัวเรื่อง
8. การอ้างอิงโดยใช้ภาพประกอบ (Illustration) นักเรียนจะต้องรู้จักใช้ภาพประกอบคำอธิบายความคิดเห็นอย่างเป็นระบบ
9. การอ้างอิง/บรรณานุกรม (ReFerences) ในการค้นคว้าข้อมูล นักเรียนจะมีการค้นคว้าจากแหล่งค้นคว้าหลากหลายประเภท นักเรียนต้องนำเสนอรูปแบบการเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิงทุกประเภทให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
10. ภาคผนวก (Appendix) ภาคผนวก คือรายการที่ผู้ทำรายงานต้องการเสนอเพิ่มเติมนอกเหนือ
จากส่วนที่เป็นเนื้อเรื่อง รายการเหล่านี้มีความสัมพันธ์และช่วยให้เข้าใจเนื้อเรื่องดีขึ้น เช่น ตัวเลขสถิติ แบบสอบถามตาราง ลำดับ เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ภาค ผนวกไม่ใช่องค์ประกอบสำคัญในการเขียนเรียบเรียงผลงานความเรียงขั้นสูง เอกสารที่นักเรียนสามารถใส่ไว้ในภาคผนวก ได้แก่ข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ
11. การใช้สื่อและวัสดุอื่น ๆ ประกอบ (The Use of Other Media and Materials) การใช้วีดิโอเทปและการใช้เทปบันทึกไม่อนุญาตให้ใช้ในการอ้างอิงข้อมูลเพื่อยืนยันความรู้ที่เกิดจากการค้นคว้า
http://wangchang.phrae1.in.th/attachments/017_EE.pdf